สายไหมต้องรอดบุกช่วยเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ถูกแม่ทำร้ายร่างกายจนศรีษะแตก ย่านคลองสามวา หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากเพื่อนบ้าน

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เขตสายไหมต้องรอด พร้อมตำรวจ สน.คันนายาว และเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ภายในชุมชนแห่งหนึ่ง ซอยพระยาสุรินทร์ 30 แขวงบางชันเขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากเพื่อนบ้าน ว่ามีเด็กหญิง 5 ขวบถูกแม่แท้ ๆ ทำร้ายร่างกาย จนศีรษะแตกใบหูฉีกขาดและมีรอยฟกช้ำตามลำตัว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ

ภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในบ้านพัก พบเด็กอยู่กับยาย มีบาดแผลบริเวณศรีษะ และใบหู เจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงได้นำตัวไปรักษาที่ ร.พ.รามาธิบดี และเข้าสู่ขบวนการช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นจะนำเด็กไปฝากเลี้ยงไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพฯ

ด้านเพื่อนบ้านคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ขอความช่วยเหลือมายังเพจสายไหมต้องรอดเผยว่า ได้เห็นพฤติกรรมของแม่เด็กที่ทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้รับไม่ได้หลังยายของเด็กร้องขอความช่วยเหลือกับลูกชายของตัวเองให้ไปช่วยรับเด็กมา เพราะแม่ของเด็กทุบตีจนเด็กได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนพ่อของเด็กไม่ได้อยู่ด้วยเนื่องจากไปทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัดแต่ได้ส่งค่าเลี้ยงดูมาดูแลเป็นประจำ

ส่วนแม่ของเด็ก ได้อยู่ที่ห้องเช่าซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ตำรวจสนคันนายาวพร้อมกับเจ้าหน้าที่นำสังคมสงเคราะห์ จึงเข้าไปตรวจสอบ พบแม่ของเด็กอยู่ภายในห้องเช่า ซึ่งแม่ของเด็กให้การรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายเด็กจริงเนื่องจากมีปากเสียงกับพี่สาว จึงทุบตีบิดไปที่ใบหู และใช้โทรศัพท์เขวี้ยงใส่บริเวณหน้าผาก จนเด็กมีเลือดออก แต่ไม่ได้พาไปโรงพยาบาลเนื่องจากไม่คิดว่าบาดแผลจะใหญ่ จนกระทั่งยายมารับตัวเด็กไป

โดยขณะที่สื่อมวลชลสัมภาษณ์แม่ของเด็กร่ำไห้ยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมประกาศว่าจะไม่ทำอีก นอกจากนี้ยังยอมรับอีกว่าใช้ยาเสพติดเป็นประจำโดยมีเพื่อนนำมาให้ ทันทีที่ให้สัมภาษณ์เสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.คันนายาว ได้ควบคุมตัวแม่ของเด็กไปส่งที่สน.บางชัน เพื่อดำเนินคดี เนื่องจากสถานที่ก่อเหตุซึ่งเป็นห้องเช่าอยู่ในพื้นที่ของสน.บางชัน โดยนายเอกภพ ได้เดินทางไปด้วยเพื่อประสานให้ความช่วยเหลือ พร้อมทางแจ้งความดำเนินคดีกับแม่เด็ก อีกทั้งยังให้ตำรวจช่วยติดตามสืบสวนเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แม่เด็กมีพฤติกรรมเช่นนี้