สระแก้ว บุกช่วยหนุ่มไทย ถูกลวงไปขังในบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต บังคับให้ทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีหน้าที่โทรหลอกให้คนมาเล่นพนันออนไลน์
วันที่ 19 ก.ค.2565 พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.ท.จิรเดช พุฒินาถพัฒณ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว นำกำลัง จนท.ร่วมกันเดินทางข้ามจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ เพื่อช่วยเหลือชายไทยรายหนึ่ง ทราบชื่อคือนายธีรภัทร ถูกลวงไปกักขัง ทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีหน้าที่หลอกให้คนไทยเข้ามาเล่นพนันออนไลน์
หลังจากที่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 ก.ค.2565 ได้รับแจ้งทางโทรศัทพ์จากนายภานุวัฒน์ อายุ 31 ปี ชาวอ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ว่า นายธีรภัทร น้องชายของตนเอง ได้หายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.2565 และได้แจ้งความไว้ที่ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ต่อมาได้รับการติดต่อจากน้องชาย และทราบว่าถูกกักขังไว้ที่บ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสาน ตม.ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อช่วยเหลือนายธีรภัทร พร้อมเร่งทำการสืบสวนหาเบาะแสและติดต่อไปยังนายธีรภัทร จนกระทั่งทราบว่าจุดที่นายธีรภัทร ถูกกักขังนั้นอยู่ในตึกเขียว 10 ชั้น ย่านตลาดปลาเก่า ในกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ตรงข้ามชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และมี รปภ.ดูแลอย่างแน่นหนา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าตรวจค้นในตึก 10 ชั้น ตามคำบอกเล่าของนายธีรภัทรซึ่งจากการตรวจค้นพบว่านายธีรภัทร ถูกขังอยู่ภายในห้องชั้นที่ จึงได้ช่วยเหลือออกจากห้องที่ถูกกักขัง พร้อมนำตัวเดินทางกลับมาฝั่งประเทศไทยทันทีและได้นำตัวนายธีรภัทร เข้าสู่ขั้นตอนทางกฎหมาย เนื่องจากนายธีรภัทร เดินทางออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย โดยทำการเปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จากนั้นได้แจ้งไปยังนายภานุวัฒน์ ซึ่งเป็นพี่ชาย ให้เดินทางมารับตัวนายธีรภัทรกลับบ้าน
นายธีรภัทร กล่าวว่า ตนเองสมัครงานทางเฟซบุ๊ก และได้เดินทางออกจากบ้านโดยไม่ได้บอกใครซึ่งเจ้าของบ่อนออนไลน์จะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด หลังจากเดินทางข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติได้แล้วเจ้าของบ่อนออนไลน์จะบังคับให้ตนทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยให้มีหน้าที่หลอกให้คนไทยเข้ามาเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งตนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
เนื่องจากถูกขู่บังคับต่างๆนานา และถูกกักขังให้อยู่ภายในห้องทำงานเท่านั้น เวลาที่เจ็บป่วยก็จะให้กินเฉพาะยาแก้ปวดเท่านั้น ตนจึงพยายามใช้โทรศัพท์ติดต่อไปยังพี่ชายและแม่ให้หาทางช่วยเหลือตนกลับบ้านด้วย ต่อมามีตำรวจไทยบุกเข้ามาช่วยเหลือตนได้ ตนรู้สึกดีใจมากเหมือนได้เกิดใหม่ ต้องขอขอบคุณทีมงาน เจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชาที่ช่วยเหลือ ตนรู้สึกเข็ดไปอีกนาน และจะไม่กลับมาทำงานแบบนี้อีกแล้ว
นอกจากนี้ยังทราบว่ายังมีคนไทยที่ถูกบังคับทำงานผิดกฎหมายอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวอีกหลายรายจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงกัมพูชา ให้ดำเนินการช่วยเหลือคนไทยเหล่านั้นอย่างเร่งด่วนแล้ว