“บิ๊กโจ๊ก” เผย มีตำรวจหยิบปืนจากมือ “หน่อง ท่าผา” ไปช่วยซ่อน ก่อนแกล้งจับแล้วปล่อย เปิดภาพนาทีหนี มีรถตามคุ้มกัน “กำนันนก”
วันนี้ (10 ก.ย.) เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า เวลา 22.45 น. วันที่ 9 กันยายน ที่ห้องเสสะเวช ตำรวจภูธรภาค7 อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวหลังประชุมติดตามการสอบสวนคดี นายธนัญชัย หรือ หน่อง ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ สว.สทล.1 กก.2 นครปฐม เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รองผกก.2 บก.ทล.ได้รับบาดเจ็บ ในบ้านเลขที่ 50 ม.2 ต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม กลางดึกวันที่ 6 กันยายน
โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจรวม 6 นาย เป็นระดับสารวัตร 1 นาย และรองสารวัตร 5 นาย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ,เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง , ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ช่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด ,ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ด้วยการทำลายหลักฐาน ซ่อนเร้น เซิร์ฟเวอร์ และอาวุธปืน
ทั้งนี้ ได้ดำเนินคดีข้าราชการตำรวจตามหมายจับทั้ง 6 นายแล้ว โดยทั้ง 6 นาย มีทั้งรับสารภาพ และรับสารภาพบางส่วน แต่แม้จะรับสารภาพบางส่วน หรือจะรับหรือไม่รับสารภาพ วันนี้ศาลได้เชื่อในพยานหลักฐานเบื้องต้น และออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 6 คนแล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า พฤติการณ์เช่น ไปเอาปืนจากมือนายหน่องมือปืน แล้วเอาปืนไปซ่อน และมีการช่วยเหลือพานายหน่องและกำนันหลบหนี เหล่านี้เป็นพฤติการณ์ที่ชัดเจน ในการกระทำความผิด ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
“พฤติกรรมที่ ตำรวจเอาปืนออกจากมือนายหน่องทันที แล้วจับนายหน่องไว้แล้วปล่อยไป ต่อจากนี้หากสอบสวนพบมีความผิดตรงไหน ก็ดำเนินคดีทุกคน วันนี้สอบสวนพฤติกรรมชัดเจนแล้ว 6 คน ก็ออกหมายจับทันที”
“การก่อเหตุ ถ้าไม่มีตำรวจให้การช่วยเหลือ ทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ การเก็บวัตถุพยาน , การถอดเซิร์ฟเวอร์ออกไปทิ้งน้ำ , การเอาปืนไปซ่อน ทำไม่ได้หรอก คนอย่างกำนันที่ไม่มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้ จะทำอะไรได้ขนาดนั้น นี่ไปช่วยเหลือกำนันนกหลบหนี ไปเป็นบอดี้การ์ด
รวมถึงรองสารวัตรจราจรเมืองนครปฐม ที่ไปซื้อปืนแล้วนำมาให้ กำนันนก ให้ นายหน่อง ใช้ยิง ชื่อก็ไม่ได้โอน ยังคงเป็นชื่อตำรวจ หนำซ้ำยังเอารถกำนันนก ไปซ่อนไว้ที่บ้านอีกหลัง ถือว่าเป็นเรื่องที่ย่ำแย่มาก เพราะฉะนั้นพฤติกรรมชั่วๆ แบบนี้ ต้องปราบให้หมด” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
“ตำรวจทั้ง 6 คน ที่ไปเป็นลูกน้องเขาจนเคยชินจึงต้องทำแบบนี้ คำว่า ผู้มีอิทธิพล มันจะไม่มี ถ้าข้าราชการตำรวจไม่รู้เห็นเป็นใจ คนแบบนี้ไม่มีความรู้อะไร มันเกิดขึ้นได้ก็เพราะมีตำรวจแบบนี้ไปเป็นเบ๊ให้” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวย้ำ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ตำรวจเรามีประจักษ์พยานบุคคล พอที่จะชี้ได้ว่า กำนันนก ใช้ให้นายหน่องก่อเหตุยิงสารวัตร ต้องดูว่าตัวไหน หน่องเองไม่ได้มีความโกรธแค้นอะไรกับสารวัตร ในขณะที่กำนันนกมีปัญหากับสารวัตรแล้วตบโต๊ะ นายหน่องนั่งอยู่อีกโต๊ะหนึ่ง ดังนั้นนายหน่องไม่มีมูลเหตุจูงใจอะไรที่จะยิงสารวัตร การยิงจึงต้องมีคำสั่งให้ยิงสารวัตร คือต้องมีคนสั่งให้ยิง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวด้วยว่า ตำรวจที่ดีมีมากกว่าตำรวจที่ไม่ดี ต่อไปนี้ตำรวจที่ไม่ดีจะอยู่ไม่ได้ มีพฤติการณ์ที่ย่ำแย่แบบนี้ จะโดนมาตรการเด็ดขาด และผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจทั้ง 6 นาย จะถูกปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ต้องหาทั่วไป
สำหรับ ตำรวจทั้ง 6 นายที่ถูกศาลออกหมายจับ และถูกควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม หลังการสอบปากคำ
นอกจากนี้ ยังมีการโพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพช่วงที่ กำนันนก และ นายหน่อง มือปืนยิง พ.ต.ท.ศิวกร กำลังหลบหนีออกจากบ้านหลังเกิดเหตุ โดยมีรถจักรยานยนต์ตามท้ายรถ ลักษณะคล้ายคุ้มกัน ซึ่งพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถจักรยานยนต์นำขบวนของตำรวจ และคนที่ขับรถในวันนั้น เป็นตำรวจสังกัดตำรวจภูธรเมืองนครปฐม