“บิ๊กโจ๊ก” ยอมรับ มีชายปริศนายืนคุยกับ “หน่อง” หลังก่อเหตุยิง “สารวัตรศิว” ขณะที่ ก.มหาดไทย รับลูก “อนุทิน” สั่งถอนใบอนุญาตมีและใช้อาวุธปืน “กำนันนก” หลังสั่งพักหน้าที่กำนัน หวั่นไปยุ่งเหยิงคดี
วันนี้ (9 ก.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีมีชายปริศนาสวมเสื้อคลุมสีดํายืนคุยกับนายธนัญชัย หรือ หน่อง ท่าผา มือปืนที่ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง1 กองกํากับการ2 กองบังคับการตํารวจทางหลวง จนเสียชีวิต หลังร่วมรับประทานอาหารที่บ้านของ นายประวีณ หรือ กำนันนก ผู้ต้องหากระทําความผิดฐาน “จ้างวานฆ่าผู้อื่น” ในพื้นที่ จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา
โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า กรณีชายสวมเสื้อคลุมสีดํายืนคุยกับนายหน่องนั้นมีจริง ซึ่งเมื่อวานมีการสอบปากคําและรู้ตัวแล้วว่าใครเข้าไปทําอะไรบ้าง จึงทําให้สรุปได้ว่ามีการช่วยเหลือกันอย่างแน่นอน แต่ใครช่วยบ้างซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนรู้อยู่แล้ว โดยจะมีการดําเนินคดีกับผู้กระทําความผิดทั้งหมด ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการที่นายหน่องสามารถหลบหนีไปได้หลังก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร นั้น มีการช่วยเหลือ ละเว้นที่เกิดเหตุ และอีกส่วนคือหนีไปทันทีหลังเกิดเหตุ หรือพูดง่ายๆว่าไม่ได้ทําหน้าที่ตํารวจ อีกทั้งยังไปช่วยผู้ต้องหาหลบหนีและทําลายหลักฐานอีกด้วย ซึ่งจะต้องว่ากันไปตามกฎหมายและดําเนินคดีอย่างถึงที่สุด
ขณะที่ทางด้าน นายยุทธนา โพธิวิหศ นายอำเภอเมืองนครปฐม ในฐานะ นายทะเบียนท้องที่อำเภอเมืองนครปฐม ลงนามด่วนที่สุด ที่ นฐ 0118/4034 ในวันที่ 8 ก.ย. ถึงนายประวีณ จันทร์คล้าย ด้วยวันที่ 7กันยายน 2566 นายประวีณ กำนันตำบลตาก้อง อำเภอเมือง นครปฐม จังหวัดนครปฐม ได้ถูกออกหมายจับในคดีอาญา ตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.469/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่น กระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโตยเจตนา และ พยายามฆ่าผู้อื่น
อำเภอเมืองนครปฐม พิจารณาเห็นว่า พฤติกรรมของท่านเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เป็นการกระทำความผิดกฎหมายอาญาร้ายแรง ซึ่งถือว่ามีความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง อันอาจ กระทบกระเทือนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ท่านจึงเป็นผู้ต้องห้ามมิออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ2490 มาตรา 13(9) อันเป็นเหตุให้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 66
นายทะเบียน นายท้องที่อำเภอเมืองนครูปฐม จึงเห็นควรเพิกถอนใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปีน (แบบ ป.4) เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายจึงแจ้งมายังท่านเพื่อให้ได้รับทราบ ข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมีโอกาสโต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานต่อ นายทะเบียนท้องที่อำเภอเมืองนครปฐม ภายใน 7วัน นับวันที่ได้รับหนังสือ รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จึงเรียนมาเพื่อทราบ
อย่างไรก็ตามกรณีที่ กระทรวงใหาดไทย มีคำสั่งสั่งพักหน้าที่กำนัน เพราะเกรงจะไปหยุ่งเหยิงกับคดีอาญาฐานเป็นผู้ใช้ฆ่าตำรวจโดยเจตนา ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และล่าสุดยังถอนใบอนุญาตมีและใช้ปืนของนายประวีณ หรือ กำนันนก เป็นไปอย่างรวดเร็วนั้น เกิดขึ้นจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์สื่อฯ และมอบหมายให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย และ ผู้ว่าฯทั่วประเทศ ตรวจสอบ ขึ้นบัญชีดำ และปราบผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศเมื่อวันที่ 8 กย.ที่ผ่านมา