วันนี้ ( 28 เม.ย 67 ) เวลา 10.05 น. ที่ สมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ. กาญจนาภิเษก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนากรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในงานสืบสานประเพณีสงกรานต์รดน้ำขอพรผู้สูงอายุประจำปี 2567 โดยมีชาวใต้ เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,200 คน พร้อมประกาศหนุนให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขับเคลื่อนงานด้านสาธารณกุศล ในฐานะนายกสมาคมฯ ต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับ บุคลากรของสมาคมฯ ที่เป็ยผู้สูงอายุที่เคยได้สร้าง คุณงามความดีให้กับชาวใต้และภูมิภาคให้มีกำลังใจ ซึ่งวันนี้ตนในฐานะนายกสมาคมฯ ก็ได้มีการจัดจัดกิจกรรมดังกล่าวทุกปีเพื่อสืบสานประเพณีนั้นดีงานนี้ต่อไป อีกอย่างหนึ่งเลยคือในช่วง เทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่ผ่านมานั้นตนไม่ได้กลับบ้านรวมถึงคณะกรรมการของสมาคมฯ ด้วย จึงได้ถือโอกาสในวันดังกล่าวสมาคมฯได้ถือโอกาสรดน้ำขอพรผู้สูงอายุประจำปี 2567
ตนขอกราบเรียนถึงพี่น้องชาวใต้ที่จะมาให้กำลังใจตนในช่วงบ่ายของวันนี้นั้น ว่า ไม่ต้องกังวลและยังไม่ต้องมาเพราะว่าวันนี้กำลังของตนนั้นเต็มเปี่ยมเเค่ส่งเสียงมาหรือโพสต์ให้กำลังใจผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ และอีกอย่างหนึ่งคือตนไม่ได้เสียกำลังใจตนยังคงทำหน้าที่เพื่อประชาชนอยู่ แต่สิ่งที่ตนเสียดายก็คือในห้วงเวลาที่ตนยังไม่ได้ทำหน้าที่ตำรวจในเวลานี้นั้น ยังมีงานอีกเยอะไปหมดที่ประชาชนรอคอย เช่น การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบการค้ามนุษย์และยาเสพติด เป็นต้น ที่ตนเคยดูแลอยู่ ก็อย่างจะฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าให้รอหากตนกลับไปได้เมื่อไหร่ตนจะรีบแก้ไขปัญหาต่างๆทันที
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ที่อาจจะถูกมองว่าใช้ประชาชนเป็นเกราะป้องกันตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ใช้ประชาชนเป็นเกราะป้องกันทุกวันนี้ไม่มีประชาชนคนไหนโง่ เพราะขนาดที่ตนไม่ได้ทำหน้าที่ในราชการแล้วยังมีผู้ที่เข้ามาร้องทุกข์กับตนเลย
ส่วนกรณีที่มีกระเเสว่าลูกน้องของตนเองนั้นเเหละที่เป็นคนปลดป้ายชื่อหน้าห้องทำงานที่สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ โดยตนได้มีการสั่งกับลูกน้องในวันศุกร์ที่ 19 เม.ย. ว่า ให้เก็บของส่วนตัวของตนที่อยู่ในห้องทำงานออกและคืนรถหลวงเพียงเท่านั้น เเต่ตนไม่ได้สั่งให้ปลดป้ายชื่อออกร่วมถึงนำรายชื่อออกจากทำเนียบผู้บัญชาการในเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย ซึ่งอย่างที่ตนเคยกล่าวไปว่าใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลของการกระทำนั้นๆ โดยภายในสัปดาห์หน้าหรือสัปดาห์ต่อไปตนจะมีการไปฟ้องอาญาทุจริตเพียงเต่ตอนนี้กำลังดูในรายละเอียดอยู่
และกระเเสว่าจะมีการเบี่ยงไปเล่นการเมืองและลงในตำเเหน่งสมาชิกวุฒิสภาหรือส.ว. จริงหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในกระเเสดังกล่าวเกิดจากมีประชาชนหลายส่วนที่อยากจะให้ตนลงทำหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งตนขอดูในรายละเอียดก่อนโดยอะไรที่สามารถช่วยประชาชนได้ตนก็ทำ แต่ยืนยันตอนนี่ยังไม่ทิ้งหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งในวันพรุ่งนี้ที่ 29 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ จะมีการประชุมคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ที่มีพล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. เป็นประธาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า ไม่หนักใจโดยวันนี้หลายส่วนก็ทำหน้าที่ไปร่วมถึงพล.ต.อ.สราวุฒิ ส่วนหนึ่งในคณะกรรมการที่ตนคิดว่าไม่เหมาะสมตนได้มีการส่งหนังสือไปที่ พล.ต.อ.สราวุฒิ แล้วและคงจะมีการตรวจสอบต่อไป ตนมั่นใจและเชื่อมั่นในการทำงานของพล.ต.อ.สราวุฒิ ซึ่งตนไม่กังวลเลย