มท.1 ยืนยันพายุ “เตี้ยนหมู่” ผ่านไทยไปแล้ว คาดน้ำท่วมไม่หนักซ้ำรอยปี 54 มีแผนรับมือพายุอีก 2 ลูก อย่าโยงลงพื้นที่กับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประเด็นการเมือง ระบุในเวที ส.ว. 2 ปี รับอ่อนด้อยใกล้ชิดประชาชน ชม ส.ว.ชุดนี้ดีที่สุดเท่าที่เคยมี เผยนายกฯ สั่งงานวันละไม่ต่ำกว่า 10 งาน
วานนี้ (29 ก.ย.) ที่รัฐสภา วุฒิสภาจัดสัมมนาการดำเนินโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ประจำปีงบประมาณ 2564 “ครบรอบ 2 ปี ส.ว.พบประชาชน ประชาชนได้อะไร?” โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในพิธีเปิด และมีรองประธานวุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภา และผู้แทนภาคประชาชนเข้าร่วม
โดย นายพรเพชร กล่าวว่า โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนเป็นโครงการสำคัญที่ดำเนินการภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และตามบทเฉพาะกาลได้มีการกำหนดให้วุฒิสภามีบทบาทในการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อพัฒนาประเทศให้เกิดความยั่งยืนตามแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งการดำเนินการปฏิรูปประเทศนั้นไม่เพียงแค่วุฒิสภาที่จะขับเคลื่อน แต่ต้องใช้ความร่วมมือจากประชาชนและทุกภาคส่วน ซึ่งโครงการวุฒิสภาพบประชาชนถือเป็นเวทีที่วุฒิสภาจะได้พบกับประชาชนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดส่งคลิปวิดีโอกล่าวปราศรัย โดยได้ขอบคุณวุฒิสภาที่มีการดำเนินโครงการวุฒิสภาพบประชาชนมาตลอด 2 ปี ซึ่งการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนถือเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาล และที่ผ่านมาแม้จะมีกลไกต่างๆ ของรัฐในการไขปัญหาประชาชน แต่ก็ไม่สามารถครอบคลุมปัญหาได้ทั้งหมด ดังนั้นการที่วุฒิสภาเข้ามามีส่วนถือเป็นการสร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติ และยังเป็นจุดร่วมระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ และหวังว่าจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประเทศเกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
ทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัดที่เกิดขึ้นจากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ โดยเชื่อว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ซ้ำรอยน้ำท่วมในปี 2554 เนื่องจากพายุ “เตี้ยนหมู่” ได้พัดผ่านไปแล้ว ส่วนพายุอีก 2 ลูกที่กำลังเข้ามา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อม มีแผนรับมืออย่างดี แต่ยอมรับประชาชนอาจได้รับความเดือดร้อนบ้าง แต่หากไม่เป็นไปตามแผน ก็ยังมีพื้นที่รับน้ำอีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงกระบวนการจัดการก็เป็นไปอย่างมีระบบ สามารถเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งได้อีกด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ยืนยันว่า ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม ติดตามสถานการณ์ แจ้งเตือน ให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิดทั้งอาหาร ถุงยังชีพ และศูนย์พักพิงรองรับการอพยพประชาชน แต่ยอมรับว่าประชาชนส่วนหนึ่งยังเป็นห่วงบ้านเรือน จึงไม่ยอมออกจากบ้านเรือนไปพักที่ศูนย์อพยพ
“ผมขอยืนยันการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีและของผม เป็นการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อนำมาแก้ไข และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ดูแลประชาชน อย่านำไปโยงเป็นประเด็นทางการเมือง” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
แต่เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ของ “3 ป.” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวปฏิเสธที่จะตอบคำถามและเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปทันที
“อนุพงษ์” ชม ส.ว.ทำงานดีที่สุดเท่าที่เคยมี
ขณะเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ปาฐกถาพิเศษในการจัดสัมมนาการดำเนินโครงการสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พบประชาชน ประจำปีงบประมาณ 2564 “ครบรอบ 2 ปี ส.ว.พบประชาชน ประชาชนได้อะไร?” โดยระบุว่า ตนไม่ได้มาจากพรรคการเมือง แต่มาทำงานการเมือง ซึ่งการทำงานนั้นยืนยันว่าตนทำงานเหมือนราชการ ทำงานตามเวลาทุกวัน แต่การทำงานในช่วงหลังเมื่อทำงานร่วมกับพรรคการเมือง ก็ได้รู้ว่าเราอ่อนด้อยในเรื่องสำคัญ คือ การใกล้ชิดพี่น้องประชาชน โดยพรรคการเมืองนั้นเขาทำงานใกล้ชิดพี่น้องประชน และเมื่อพิจารณาถึงปัญหาของประชาชนกว่า 65 ล้านคน แน่นอนคงมีมากมาย และในบางส่วนปัญหาคงไม่ได้รับการแก้ไขที่ตรงจุด และได้รับการปฏิบัติจากกลไกของรัฐ โดยเฉพาะจากข้าราชการ ที่ไม่เป็นไปตามความต้องการของประชาชน
ดังนั้นจะเห็นว่านายกรัฐมนตรีต้องลงพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน รับฟังปัญหาและความเดือดร้อน ทั้งนี้ วุฒิสภาถือเป็นส่วนหนึ่งของอำนาจรัฐ อำนาจอธิปไตยของรัฐ โครงการวุฒิสภาพบประชาชนนี้เชื่อว่าเป็นไปตามที่ตั้งคำถาม และเชื่อว่าเป็นประโยชน์และประชาชนได้ผลดี
“ผมขอชื่นชมสมาชิกวุฒิสภาชุดนี้ เป็นชุดที่ทำงานดีที่สุดเท่าที่เคยมี จึงขอให้ดำเนินการแบบนี้ต่อๆ ไป” พล.อ.อนุพงษ์ ระบุ
นอกจากนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงสาเหตุที่ไม่ค่อยลงพื้นที่ เนื่องจากกระทรวงมหาดไทย เวลาลงพื้นที่แต่ละครั้งจะต้องเป็นคณะใหญ่ ใช้งบประมาณจำนวนมาก แม้ตนเองจะเคยขอให้ลงพื้นที่เป็นคณะเล็ก แต่กระทรวงยืนยันไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ แต่ยืนยันว่าทำงานหนักมาตลอด
“นายกรัฐมนตรีของพวกคุณ สั่งงานผมทุกวัน ไม่เว้นแม้วันหยุดราชการ วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 งาน ซึ่งผมก็ต้องอาศัยข้าราชการด้วย เพราะเรื่องบางอย่างลึกเกินไป ดังนั้น ใช้วิธีการลงพื้นที่พร้อมกับนายกรัฐมนตรี เพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่เตรียมข้อมูลเพียงแค่ครั้งเดียว” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว