บิ๊กตู่ โว 7 ปี ผลงานทำได้เร็วทั้งที่ติดเงื่อนไขมาก ขอวัยรุ่นอย่าใจร้อน แซะพวกต้าน

Home » บิ๊กตู่ โว 7 ปี ผลงานทำได้เร็วทั้งที่ติดเงื่อนไขมาก ขอวัยรุ่นอย่าใจร้อน แซะพวกต้าน


บิ๊กตู่ โว 7 ปี ผลงานทำได้เร็วทั้งที่ติดเงื่อนไขมาก ขอวัยรุ่นอย่าใจร้อน แซะพวกต้าน

บิ๊กตู่ ขอวัยรุ่นอย่าใจร้อน โวผลงาน 6-7 ปี รัฐบาลทำได้เร็ว ภายใต้เงื่อนไขกฎหมาย และกระแสต่อต้าน เหน็บพวกต้านไม่พยายามเข้าใจ ทั้งที่วางรากฐานเพื่อนาคต

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 พ.ค.2565ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ก่อนการประชุม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำคณะนักกีฬาอีสปอร์ตทีมชาติไทยที่ได้รับเหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศเวียดนาม และนักกีฬาอีสปอร์ตที่ได้รับรางวัลแชมป์โลก เข้าพบ

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวแสดงความยินดี นายกฯและรัฐบาลยินดีกับทุกคนด้วยใจจริงและจะให้การสนับสนุนต่อไป อยากให้น้องๆ หลานทุกคน ค่อยๆไปติดตามดูว่า รัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นายกฯ เข้าใจว่าคนรุ่นใหม่ ค่อนข้างใจร้อน อยากจะให้เร็วๆ อยากให้เสร็จโดยเร็ว ง่ายๆ ทำให้ไว

นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่นายกฯ ทำมา 6-7 ปี ถือว่าเร็วแล้ว คำว่าเร็วคืออะไร มันคือต้องผ่านขั้นตอนอีกมากมาย นั่นคือการปฏิรูป จนถึงวันนี้สถานะของเราในอาเซียนไม่ได้แพ้ใคร ไทยยังเป็นแหล่งฐานในการลงทุน เราก็อยู่ในกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นอนาคตที่วางไว้ให้กับพวกเรา และวันข้างหน้าเราจะมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ

ทางกระทรวงดีอีเอสกำลังขับเคลื่อน จนทำให้ไทยขยับขึ้นเป็นอันดับต้นต้นของอาเซียนในเรื่องของเทคโนโลยี 5G ซึ่งดีกว่าหลายประเทศก็ได้หรือจะเรียกว่าดีที่สุดก็ได้ เป็นสิ่งที่หลายคนไม่ทราบ เพราะเราไม่ค่อยสนใจในเรื่องที่ยุ่งยาก ไม่สนใจในระบบระเบียบราชการมากนัก ซึ่งโทษใครไม่ได้ เพราะคิดไว ทำไว เหมือนเครื่องจักรเปิดปุ๊บออกปั๊บ แต่รัฐบาลทำแบบนั้นไม่ได้เนื่องจากติดกติกากฎหมาย เราต้องทำทุกอย่างให้ปลอดภัยโดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณ แต่ถ้าคนเข้าใจก็จะไปต่อได้และเร็วขึ้น แรงต่อต้านก็จะลดลง

“วันนี้นายกฯ ยังต้องเผชิญกับเรื่องเหล่านี้อยู่ โดยเฉพาะการต่อต้านต่างๆ ซึ่งบางครั้งมันไม่ใช่สาระ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะไม่เข้าใจไม่พยายามเข้าใจ นั่นคือปัญหา อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าทุกคนในห้องนี้เข้าใจว่า ผมกำลังทำอะไรให้กับประเทศ และส่วนที่สำคัญที่สุดคือ ครอบครัวของตัวเองในวันหน้าจะอยู่กันอย่างไร จะมีอาชีพรายได้เลี้ยงครอบครัวอย่างไร ลูกหลานต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่เข้มแข็งและดีกว่าเรา รัฐบาลต้องดูแลคนทั้ง 70 คน” นายกฯ กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ