“บิ๊กตู่”บ่นอุบวัคซีนเยอะก็ไม่มีคนฉีด หนุนกลุ่มจังหวัดอันดามัน เป็นประเทศการท่องเที่ยวระดับโลก “มาแปลกโชว์วิสัยทัศน์ คนไทยต้องว่ายน้ำเป็น บอก “นอนหงายแล้วกางมือ ไม่ตาย ผมทำมาเยอะ โชว์เดินเล่นริมหาด

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 พ.ย.2564 ที่อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต้อนรับนักท่องเที่ยว จ.กระบี่ และพบผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวและผู้นําท้องถิ่น

ทั้งนี้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะพบปะกับประชาชน ได้พบกับกลุ่มผู้ประกอบการเรือหางยาว โดยได้กำชับ ว่าอย่าฉวยโอกาสขึ้นค่าบริการ หากรักษามาตรฐานตรงนี้ได้เชื่อว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจไปได้ด้วยดี ก่อนที่นายกฯ จะลงเรือไปตรวจเยี่ยมเรือบริการนักท่องเที่ยวที่จอดอยู่บริเวณชายฝั่ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างพบปะกับประชาชนว่า วันนี้กำลังพลิกโฉมประเทศไทย คำว่าพลิกโฉมประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จะทำให้ประเทศดีขึ้นได้ทั้งศักยภาพ แนวคิด หลักคิด ปัญหาอุปสรรค การขจัดปัญหาอุปสรรคที่มีปัญหา เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณที่ต้องเหมาะสมและเพียงพอ และสิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาเสถียรภาพของรัฐภายในประเทศนี้ หากไม่มีเสถียรภาพ ไม่มีความเข้มแข็ง ก็จะเกิดความวุ่นวาย ไม่มีความสำเร็จทุกเรื่อง ขณะนี้ต่างประเทศกำลังดูอยู่

ส่วนโครงการต่างๆ ก็กำลังคิดอยู่ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน นี่เป็นโครงการของประเทศเรา เราเป็นประเทศที่ใช้งบประมาณที่ยาว ประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 และฟื้นฟูเงินถึง 25% ของงบประมาณ GDP ต้องเข้าใจระบบงบประมาณ แต่นี่คือระบอบประชาธิปไตยแต่ตอนนี้เห็นว่าทุกอย่างที่พูดมาทั้งหมด

สิ่งที่ตนคิดมาอะไรที่ยังไม่สำเร็จก็ว่ากันไปทีละอย่าง สำเร็จแต่คนไม่เห็น แต่สิ่งที่เห็นคือเคลื่อนที่ไปมาที่ไหนถนนหนทางก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับรถไฟรถไฟฟ้า ท่าเรือต่างๆเปิดใหม่ แต่ต้องเข้าใจว่าทำพร้อมกันไม่ได้นั่นคือประเด็นสำคัญ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยินดีที่ได้เปิดการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่อย่างปลอดภัย มาตรการทุกมาตรการต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มงวดเด็ดขาดตนได้สั่งการไปแล้ว อะไรที่ปล่อยปละละเลยไม่อนุญาตแล้วยังทำก็ต้องถูกลงโทษสถานหนัก เช่น สถานบริการ เพราะนี่คือกติกาที่ต้องมีให้แก่กัน จะบอกว่าขาดทุนเยอะไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นมาอีกรอบ ก็ถอยหลังกลับไปอีก

กว่าจะเปิดได้ใช้เวลาอีกนาน รัฐบาลพยายามทำเต็มที่แล้ว ต้องอยู่กับรัฐบาล สถานประกอบการ ผู้บริโภค ประชาชน สังคม ว่าจะช่วยกันทำให้สังคมลดการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้อย่างไร มัวแต่โทษกันไปโทษจะมาทำเต็มที่ ขอให้ทุกคนไปฉีดวัคซีนให้ครบ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า มีน้อยก็บ่น มีเยอะก็ไม่ฉีด ไม่กล้าไป ฉีดแล้วอย่างไรก็ไม่ตาย ไม่ป่วยรุนแรงไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และต้องฉีดให้ครบ 100 ล้านโดสในสิ้นปีนี้ แต่ตอนนี้ก็พยายามทำให้ถึงร้อยละ 70 ก่อน ประเทศไทยกำลังเร่งพัฒนาวัคซีนภายในประเทศทั้งของจุฬาและมหิดลคาดการณ์ว่าในปีหน้าสำเร็จ

“มาประชุมในวันนี้ จะเป็นการประชุมด้านความคิดต่างของคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า ต้องช่วยกันทำช่วยกันคิดช่วยกันแก้ อะไรที่ไม่ดีก็รู้ อะไรที่ดีก็รู้อะไรทำได้ก็รู้ ถ้าทุกคนเข้าใจซึ่งกันและกันก็จะไปได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นเรื่องการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวด้านเศรษฐกิจรู้อยู่แล้วประเทศไทย GDP สูงสุดการท่องเที่ยวบริการ

รัฐบาลพยายามบริหารจากห่วงโซ่เหล่านี้ ผู้ผลิต ผู้แปรรูป เพิ่มนวัตกรรมวิจัยพัฒนาเพิ่มมูลค่าการจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ ถ้าระบบเกษตร คือ ขายข้าวจบก็คือจบ ข้าวผันผวนเดี๋ยวอะไรก็ไม่รู้รัฐบาลมีหน้าที่ก็ประกันไป ต้องมีการอธิบายเขา

รัฐบาลไม่สามารถไปสั่งโน่นสั่งนี้ได้ผู้ประกอบการต้องดำเนินการตามกฎหมาย น้ำมันก็เช่นกัน ทุกอย่างมีต้นทุนต้องเข้าใจว่าอะไรคือต้นทุนอะไรคือการแปรรูป อะไรคือการเพิ่มมูลค่าหรือการตลาดมีทุกค่ายอยู่ตรงนี้ถ้าบังคับได้ก็คงดี เพราะฉะนั้นก็มีกฎหมายวางตัวที่ทำได้ วันนี้ต้องกลับไปดูใหม่ทั้งหมด อะไรที่ช่วยตัวเองได้ก็ช่วยไปก่อนได้หรือไม่ งบประมาณมีจำกัดต้องค่อยๆทยอยให้ ตอนนี้ลดดอกเบี้ยลดค่าน้ำค่าไฟก็ยังไม่พอ

แล้วสนามบินจะเกิดได้หรือไม่สะพานจะเกิดได้หรือไม่ถ้าโดนจะเกิดได้หรือไม่นี่คือสิ่งที่ตนให้ความสำคัญว่าทำอย่างไรให้ประเทศไทยมีรายได้สูงขึ้นด้วยการคิดใหม่ทำใหม่ แล้วเริ่มจากตัวเอง วันนี้โดนมาพูดทำความเข้าใจเสียงดังไปหน่อยพูดตั้งแต่เช้าเจ็บท้องเกร็ง วันนี้ตนคิดทั้งวันไม่เคยหยุดเลย ว่าจะทำได้อย่างไรทุกอย่างมีแผนมี Master plan

สิ่งสำคัญที่สุดคือการฟังความคิดเห็น แผนงานงบประมาณ จึงจะสามารถทำด้วยกันได้ รัฐบาลยินดีทุกอย่างที่ขอมา รับไว้ ไม่ใช่ไม่สนใจไม่ฟังทั้งหมด สังคมต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่าให้คนที่ไม่ชอบทำตามระเบียบตามกฎหมายออกมาเพ่นพ่าน ทำให้สังคมเสียหายไปหมดเราเดือดร้อนรายได้ก็ลดลง ความเห็นที่เสนอเข้าไปต้องไม่ขัดแย้ง จังหวัด” นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พรุ่งนี้(16 พ.ย.)จะมีการเสนองบประมาณโครงการขึ้นมาจำนวนมากให้ตนได้พิจารณา ประเทศไทยมีกี่หมู่บ้าน ล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น จ.กระบี่ ถือเป็นจังหวัดที่มีรายได้สูงอันดับต้นๆ ของประเทศ ทำไม่สุจริตมันก็ไม่สุจริตอยู่อย่างนี้ลดความเหลื่อมล้ำให้ได้ ในเมื่อมีภาระมีเงินมีรายได้ดีกว่าก็ต้องดูแลคนที่มีรายได้น้อย นี่คือหลักการ ความเท่าเทียมในเรื่องของโอกาสและอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน

ความเป็นธรรมคือการดูแลผู้ที่มีรายได้น้อย เราใช้งบประมาณจำนวนมากทำอย่างไรให้ผู้มีรายได้น้อยมีชีวิตที่ดีขึ้นพอเพียงในการใช้ชีวิตถือเป็นความหลากหลายทางชีวภาพ เราจะปล่อยให้คนของประเทศเป็นอย่างนี้ไม่ได้คิดแล้วก็จุกคอทุกทีต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนจำไว้ 2 ครั้งคือโอกาสที่เท่าเทียมและความเป็นธรรมที่ดูแลผู้มีรายได้น้อยให้มีรายได้ที่ดีขึ้นอย่างเพียงพอ

มีเหตุมีผลความพอประมาณและมีภูมิคุ้มกันที่ดีเราต้องมีโครงสร้างสังคมที่เข้มแข็งให้ได้เราเป็นชนชาติเดียว คนละศาสนาแต่ก็คือคนไทยด้วยกัน อยู่ด้วยกันมาเก่าแก่ยาวนานนี่คือประเทศไทยประเทศของเราทุกตารางนิ้วคือของเราของคนไทยทุกคน ที่จะต้องมีทั้งโอกาส และความเท่าเทียม และความเป็นธรรม

ช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรี ถามชาวบ้านถึงการปลูกข้าว พร้อมระบุว่า “นายกฯ ไม่ได้โยนภาระให้กับประชาชน มาครั้งนี้ไม่ได้หาเสียง แต่พูดด้วยใจจริงของตนเอง โดยความร่วมมือของคณะรัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาล ตนโกหกใครไม่เป็น อะไรที่ทำได้ตนทำให้

เช่น โครงการ E – Voucher ต่างๆ โครงการท่องเที่ยว เพิ่มการท่องเที่ยว 30 รายการ SHA Plus การใช้เทคโนโลยีออนไลน์ ทุกอย่างต้องเดินหน้าทั้งหมด ต้องสมบูรณ์ในตัวเองทั้งหมด รัฐบาลส่งเสริมให้กลุ่มจังหวัดอันดามัน เป็นประเทศการท่องเที่ยวระดับโลก”

ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันคิด ช่วยร่วมมือ ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีจะค่อยๆ ช่วยทำให้ได้ทั้งหมด ทำแบบเนรมิตรไม่ได้ พร้อมถามว่า “ใครว่ายน้ำไม่เป็นบ้าง นายกฯ สอนเด็กๆ มาแล้ว พร้อมทำท่า กางมือ และกล่าวว่า

ลอยเฉยๆ ไม่มีวันจม แล้วรอคนมาช่วย นอนหงายแล้วกางมือ ไม่ตาย ผมทำมาเยอะตั้งแต่เด็กๆ แต่ ถ้าตกน้ำแล้วตะเกียกตะกายก็จะตายตอนนั้น เพราะไม่มีแรงหมดแรงตั้งแต่ต้น ฉะนั้นคนไทยหนึ่งต้องว่ายน้ำเป็น สองต้องออกกำลังกาย สามต้องเรียนสองภาษา โอเคจบไหม แต้งกิ้ว”

จากนั้นนายกรัฐมนตรีปลูกต้นทุ้งฟ้า ต้นไม้ประจำจังหวัดกระบี่ และเยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน ก่อนถ่ายภาพหมู่ริมชายหาด โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้แอคชั่นถ่ายรูปหลายมุม รวมทั้งการเดินริมหาดคนเดียว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่จ.กระบี่ ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรี ได้เปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าบาติกหลากสีสันเป็น“ผ้าลายขอเจ้าฟ้า สิริวัณณวรีฯ”สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงพระราชทานแบบลายผ้า โดยเป็นผลิตภัณฑ์โอทอป จ.กระบี่ อีกทั้ง
กำหนดการของนายกรัฐมนตรีถูกเลื่อนให้เร็วขึ้นเนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มกระบี่ไม่ทนที่เคลื่อนไหวนัดรวมตัวกัน