‘บิ๊กตู่’ สวมเสื้อผ้ามัดย้อม สีขาว-ฟ้า ควงทีมรวมไทยสร้างชาติ​ ทำบุญสงกรานต์ 3 วัด​ แบบเปิดเผยครั้งแรก​ หลังดำรงตำแหน่งนายกฯ​​ 8 ปี​ พร้อมเดินหาเสียง ช่วย รทสช. อ้อนเลือก เบอร์ 22

14 เม.ย. 66 – ที่วัดพลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี​ พรรครวมไทยสร้างชาติ​ (รทสช.)

พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์​ สาลี​รัฐ​วิภาค​ หัวหน้าพรรค​ นายเอกณัฐ​ พร้อมพันธ์​ เลขาธิการ​พรรค​ และนางสาวศิลัมพา เลิศนุวัฒน์​ ผู้สมัครเขตคลองสาน ลงพื้นที่ทำบุญในช่วงเทศกาลสงกรานต์

โดยวัดแรกคือ วัด​พิชัยญาติการามวรวิหาร​​ เขตคลองสา นมีพระพุทธรูป​เก่าแก่ “สมเด็จพระสิทธารถพุทธเจ้า” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อสมปรารถนา”

พล.อ.ประยุทธ์ มาในลุกส์ใหม่ สวมเชิ๊ตผ้ามัดย้อม สีขาว-ฟ้า ด้านในเป็นเสื้อยืดสีน้ำเงิน โลโก้พรรครวมไทยสร้างชาติ ทันทีที่มาถึงได้มีชาวบ้านพื้นที่รดน้ำอวยพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ก่อนจะเข้ากราบพระ และหลวงพ่อสมปรารถนา ก่อนสรงน้ำพระ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รักชาติ บ้านเมือง ขอให้บ้านเมืองสงบสุข ร่มเย็น และประชาชนมีความสุข ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าอย่างปลอดภัย ขอให้ช่วยกัน

ก่อนจะเข้าสักการะพระปรางค์ 3 ยอด ที่ตั้งตระหง่านเป็นสง่าอยู่เบื้องหลังของที่วัด องค์พระปรางค์มีความสูง 21 วาเศษ หรือประมาณ 40 กว่าเมตร

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวฝากประชาชนที่มาทำบุญด้วยว่า “ฝากพรรคเบอร์ 22 และผู้สมัคร เบอร์ 7 ด้วยนะ”

จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร​ เขตบางกอกใหญ่​ ซึ่งเชื่อกันว่าหากเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังวัดนี้เชื่อกันว่าจะสร้างความเป็นสิริมงคล ส่งเสริมความก้าวหน้าในตำแหน่งการงาน เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจิตใจตามความเชื่อ​

ขณะที่ในช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์​ จะเดินทางไปวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร​หาร​ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อสมเด็จพระราชาคณะของวัดนี้ 3 องค์ ได้แก่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สมเด็จโต, สมเด็จพระพุฒาจารย์ “สมเด็จปิลันทน์”, สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ก่อนที่จะเดินพบปะกับประชาชนยังตลาดวังหลัง

โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ทั้ง​ 3 วัดเป็นวัดที่ พล.อ.ประยุทธ์​ ให้ความศรัทธาเป็นอย่างมากตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก​

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์​ เดินสายทำบุญในช่วงเทศกาลสงกรานต์แบบเปิดเผยต่อสาธารณะ หลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา 8 ปี และประกาศลงเล่นการเมืองเต็มตัว