บิ๊กก้อง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. เผยขบวนการแก้ไขกฎหมายสารต้องห้ามของไทยใกล้แล้วเสร็จตามแนวทางของวาดา เชื่อไทยพ้นแบนก่อนซีเกมส์เวียดนาม

บิ๊กก้อง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. เตรียมเสนอร่างแก้ไขกฎหมายสารต้องห้าม ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาวันที่ 26 พ.ย.นี้ ซึ่งกระบวนการประกาศเป็นพระราชกำหนด น่าจะเสร็จเรียบร้อยเดือนก.พ.ปีหน้า จากนั้นเมื่อทุกอย่างสมบูรณ์จะนำเสนอวาดาพิจารณา ก่อนเจรจาขออุทธรณ์ลดโทษ 4 ข้อ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมด น่าจะเสร็จในเดือนเม.ย.

ตามที่ องค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาดา) ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.64 ว่า ประเทศไทย อินโดนีเซีย และ เกาหลีเหนือ ทำผิดกฎเรื่องสารต้องห้าม เกี่ยวกับนักกีฬา ต้องถูกลงโทษ โดยในส่วนของไทยถูกระบุความผิดไว้ว่า ไม่ได้ปฎิบัติตามธรรมนูญสารต้องห้ามของวาดา ในด้านการบังคับใช้กฎหมาย ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ในขณะที่อินโดนีเซีย และเกาหลีเหนือ ผิดกฎด้านการไม่ส่งนักกีฬาเข้ารับการตรวจสารต้องห้าม

• เอเอฟซี แจ้งรายชื่อ 8 สโมสรไทยผ่านไลเซนส์เล่นแชมเปียนส์ลีกปีหน้า

โดยไทยได้รับบทลงโทษ 4 ข้อ เป็นเวลา 1 ปี ข้อแรก ไทยไม่สามารถร่วมเป็นกรรมการและรับทุนสนับสนุนจากวาดาได้ ข้อ 2 กรรมการชาวไทย ในนามตัวแทนประเทศ ไม่ใช่ในนามบุคคล ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในสหพันธ์กีฬานานาชาติ 1 ปี

ข้อ 3 ไม่สามารถจัดการแข่งขันกีฬานานาชาติ ระดับภูมิภาค ทวีป และโลก ยกเว้นเกมที่ได้มีการอนุมัติให้จัดก่อนมีบทลงโทษ และข้อ 4 ห้ามใช้ธงชาติไทย ในสนามการแข่งกีฬาระดับภูมิภาค ทวีป และโลก ยกเว้นสามารถติดธงชาติไทย ในชุดแข่งขันได้

ความคืบหน้าล่าสุดในเรื่องนี้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ตลอดเวลากว่า 1 เดือน กกท. ได้ประสาน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ในการแก้ไขตัวบทกฎหมาย พระราชบัญญัติควบคุมสารต้องห้ามทางการกีฬาพ.ศ.2555 ให้สอดคล้องกับวาดา ตามมาตรฐานสากล ซึ่งต้องขอขอบคุณกฤษฎีกา ที่พิจารณาเรื่องนี้ให้ถึงสัปดาห์ละ 2 วัน โดยตอนนี้ได้มีการปรับแก้ร่างกฎหมายเสร็จครบทุกมาตราแล้ว

ทั้งนี้ กกท. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เตรียมเสนอร่างแก้ไขกฎหมายสารต้องห้าม ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาวันที่ 26 พ.ย.นี้ ซึ่งกระบวนการประกาศเป็นพระราชกำหนด น่าจะเสร็จเรียบร้อยเดือนก.พ.ปีหน้า จากนั้นเมื่อทุกอย่างสมบูรณ์ จะนำเสนอ วาดา พิจารณา เมื่อวาดา ประกาศจะเป็นในส่วนของไทยที่จะขออุทธรณ์ลดโทษ 4 ข้อ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมด น่าจะเสร็จในเดือนเม.ย. ทำให้ ไทยมีโอกาสพ้นโทษ ทันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ค.ปีหน้า ที่เวียดนาม

“สำหรับประเด็นที่มีการแก้ไข ในร่างกฎหมายสารต้องห้าม เป็นการบริหารงานของหน่วยงานตรวจสารต้องห้ามของไทย ที่ทำได้อย่างอิสระ ส่วนบทลงโทษจะมีเพิ่มเติม นอกจากลงโทษนักกีฬาที่ไปเกี่ยวข้องกับสารต้องห้ามแล้ว ยังมีการเพิ่มเติมบทลงโทษ เอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งบทลงโทษกำหนดไว้อย่างชัดเจน รวมถึงการเปิดโอกาสให้อุทธรณ์โทษต้องมี ซึ่งตอนนี้การร่างกฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว” ผู้ว่าการกกท. กล่าว