หน่วยตำรวจรัฐริโอเดจาเนโรของบราซิล เผยว่าปฏิบัติการบุกสลัมแห่งหนึ่งในย่านชากาเรซีนยู นครริโอเดจาเนโร เพื่อปราบปรามยาเสพติดเมื่อวันพฤหัสบดี (6 พ.ค.) มีผู้เสียชีวิตไปถึง 25 คน หนึ่งในนั้นเป็นตำรวจ 1 นาย แม้ศาลฎีกาบราซิลเคยมีคำสั่งห้ามตำรวจเปิดปฏิบัติการเช่นนี้ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ยกเว้นในสถานการณ์คับขันจริงๆ
เหตุนี้ทำให้กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนและนักวิชาการวิจารณ์ปฏิบัติการนี้อย่างมาก ทั้งยังเป็นปฏิบัติการที่มีความสูญเสียมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของรัฐริโอเดจาเนโรด้วย
ด้านโฆษกของหน่วยตำรวจ แถลงว่าจุดประสงค์ของปฏิบัติการนี้คือการห้ามไม่ให้ผู้ค้ายาเสพติดบังคับเยาวชนให้เข้าร่วมขบวนการ และมีตำรวจเข้าร่วมปฏิบัติการนี้ราว 200 นาย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากใช้เวลาสอบสวนหลายเดือน ไม่ใช่แค่นั้นปฏิบัติการนี้ยังนำมาสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัย 6 ราย ยึดปืนได้ 20 กระบอก และอ้างว่าพบยาเสพติดปริมาณมาก
ส่วนผู้เสียชีวิต 24 คนจาก 25 คนนี้ โฆษกเผยว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติดและอาชญากร ที่พยายามฆ่าตำรวจ และปฏิบัติการนี้ไม่ได้ละเมิดคำสั่งของศาล โดยอ้างว่ากระทรวงยุติธรรมและความมั่นคงสาธารณะของบราซิลแจ้งมาก่อนแล้วว่าถ้าจำเป็นต้องทำก็ทำได้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมและความมั่นคงสาธารณะของบราซิล ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งระบุว่ากระทรวงทราบเรื่องนี้ภายหลังมีปฏิบัติการ และจะสอบสวนว่ามีการกระทำละเมิดกฎหมายระหว่างปฏิบัติการนี้หรือไม่
ด้านนายมาห์เซลู เฟรชู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รัฐริโอเดจาเนโร โพสต์ประณามปฏบัติการนี้ผ่านทวิตเตอร์ว่าเป็นเรื่องที่บ้าๆ ที่จะต้องหยุดลงให้ได้
ส่วนบริษัทเมโตรฮิว ที่ให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินในนครริโอเดจาเนโร เผยว่า มีผู้โดยสาร 2 คนถูกยิงได้รับบาดเจ็บจากปฏิบัติการนี้ด้วย