ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพี-มูฟ เครือข่ายประชาชนระดับภูมิภาคที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย และปัญหาจากนโยบายรัฐที่ไม่เป็นธรรม เดินสายพบพรรคการเมืองเพื่อแลกเปลี่ยนและรับฟังข้อเสนอ
เพื่อเรียกร้องให้พรรคการเมืองต่างๆ ช่วยกันผลักดันการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากโครงการที่ผิดพลาดของรัฐ และนโยบายที่ไม่เป็นธรรมต่อประชาชนทั้งในชุมชนเมือง และภูมิภาคต่างๆ ที่หมักหมมมายาวนาน
ครอบคลุม 5 เรื่องหลัก คือ 1.แก้ปัญหาที่ดิน ทรัพยากร ที่อยู่อาศัย 2.สร้างเสรีภาพ กระบวนการยุติธรรม 3.คุ้มครองชาติพันธุ์ ผลักดันสิทธิสถานะ 4.สร้างรัฐสวัสดิการ การกระจายอำนาจ และ 5.แก้ปัญหาโครงการพัฒนาของรัฐ พัฒนาสาธารณูปโภคให้เป็นสิทธิพื้นฐาน
พี-มูฟระบุว่าตลอดระยะเวลา 8 ปี ต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐประหาร 22 พ.ค.2557 จนมาถึงการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงมีประชาชนถูกละเมิด เผชิญความลำบากยากแค้น ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เช่น นโยบายทวงคืนผืนป่าที่อ้างว่าจะทวงคืนผืนป่าเพื่อประชาชนทุกคน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ของประชาชนในเขตป่าที่ถูกประกาศทับ ตัดฟันพืชผลทางการเกษตร ข่มขู่ให้ออกจากพื้นที่ และจับกุมดำเนินคดี
บางคนถูกอุ้มหาย พบเป็นกระดูกในพื้นที่ป่าที่เป็นบ้านตัวเอง อีกทั้งรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดทิศทางในการพัฒนาที่เอื้ออำนาจให้กับชนชั้นปกครองและกลุ่มทุน
ที่ผ่านมา พี-มูฟร่วมนำเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนร่วมกับองค์กรเครือข่าย แต่รัฐบาลไม่รับร่าง ปัดตกทุกฉบับ
จากปัญหาที่พี-มูฟเรียกร้องเพื่อนำไปสู่การแก้ไข ส่วนหนึ่งคาราคาซังมาหลายรัฐบาลแล้วก็จริง แต่หลังรัฐประหาร 2557 กลับถูกระบอบอำนาจนิยมกดทับหนักมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นมรดกพิษภัยต่อประชาชน
โดยเฉพาะนโยบายทวงคืนผืนป่าที่มุ่งเอาผิดแต่ประชาชนตัวเล็กตัวน้อย ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่ามาก่อนประกาศเป็นป่าอนุรักษ์ ขณะนี้มีประชาชนถูกดำเนินคดีแล้วมากกว่า 30,000 ราย
หรือกรณีกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอย จ.เพชรบุรี ที่ถูกบังคับอพยพออกจากป่าแก่งกระจาน และแกนนำถูกอุ้มฆ่าเสียชีวิต ปัจจุบันก็ยังรอคอยการแก้ปัญหา
เหล่านี้คือสิ่งที่รัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียม ต้องเข้ามาชำระสะสาง และลบล้างผลพวงที่เกิดขึ้นจากรัฐประหาร