เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กว้างขวางจากพรรคฝ่ายประชาธิปไตย อาจารย์ นักวิชาการด้านกฎหมาย

กรณีสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อระบบจัดสรรปันส่วนผสม 500 หาร ได้รับความเห็นชอบในวาระที่สองของการประชุมร่วมรัฐสภา ด้วยคะแนนเสียง 354 ต่อ 162 งดออกเสียง 37 ไม่ลงคะแนน 4

ภายใต้ระบบนี้พรรคการเมืองที่ชนะระบบเขตมาก จะได้บัญชีรายชื่อน้อย ส่วนพรรคที่แพ้เลือกตั้งระบบเขต หากมีคะแนนในบัตรใบที่สองมาก จะได้รับการจัดสรรส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อมาก

ด้วยเหตุนี้หลายคนฟันธงตรงกัน คนกดปุ่มสั่งการจากทำเนียบรัฐบาลให้ส.ส.พรรครัฐบาล ส.ว. โหวตหนุนสูตร 500 หาร แทนสูตร 100 หาร ก็เพื่อดับฝันร้ายของตัวเอง สกัดพรรคใหญ่ฝ่ายตรงข้ามไม่ให้แลนด์สไลด์

พรรคเพื่อไทย-ก้าวไกล ออกแถลงการณ์ประณามมติที่ประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 6 กรกฎาคม เป็นมติอัปยศ

สมาชิกรัฐสภาจำนวนหนึ่งในซีกรัฐบาลได้ใช้เสียงข้างมาก จงใจกระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 โดยลงมติแก้ไขมาตรา 128 ตามกรรมาธิการเสียงข้างน้อย

เพื่อนําระบบจัดสรรปันส่วนผสมที่ถูกยกเลิกโดยรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2564 กลับมาใช้ การแก้ไขเช่นนี้ขัดทั้งรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมรัฐสภาอย่างชัดเจน

เจตนาเพียงเพื่อสนองความต้องการสืบทอดอำนาจ ไม่ได้เพื่อต้องการออกแบบระบบการเลือกตั้งที่ดีให้แก่ประชาชน

พรรคฝ่ายประชาธิปไตยยืนยันจะร่วมมือกับประชาชน เดินหน้าคัดค้านกระบวนการสืบทอดอำนาจนี้อย่างถึงที่สุด

พรรคแกนนำฝ่ายค้านระบุหลังจากร่างกฎหมายผ่านวาระ 3 จะถูกส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาและคณะกรรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ในส่วนของพรรคจะใช้กลไกผ่านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง อีกทั้งจะนำเรื่องดังกล่าวมาเป็นส่วนหนึ่งของการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย

แต่ที่เลวร้ายกว่านั้น คือข้อสังเกตที่ว่า แท้จริงสูตรหาร 500 อาจเป็นเพียงกับดักสร้างสถานการณ์ลากการเมืองเข้าสู่ทางตัน จากนั้นผู้มีอำนาจก็จะใช้เป็นข้ออ้างในการกำหนดกติกาเลือกตั้งขึ้นมาเอง สร้างความได้เปรียบโดยสมบูรณ์ เช่นการออกพ.ร.ก.เลือกตั้ง แบบนั้นหรือไม่

ประชาชนเจ้าของประเทศจับตาดูอยู่ หากเห็นความเคลื่อนไหวไปในแนวทางนั้น เชื่อว่าจะร่วมกันแสดงพลังต่อต้านคัดค้านถึงที่สุด ไม่ยอมให้ฝ่ายอำนาจทำอะไรตามอำเภอใจ อีก 8 ปีก็นานเกินพอแล้ว