บช.น.ยัน ขอพื้นที่ม็อบทะลุฟ้าดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมยึดกัญชา-จับสึกพระเร่รอน

Home » บช.น.ยัน ขอพื้นที่ม็อบทะลุฟ้าดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมยึดกัญชา-จับสึกพระเร่รอน



บช.น.ยัน ขอพื้นที่ม็อบทะลุฟ้าดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมยึดกัญชา-จับสึกพระเร่รอน

บช.น. แถลง ยันขอคืนพื้นที่ “หมู่บ้านทะลุฟ้า” ทำตามกฎหมาย จับ 70 ผู้ชุมนุม ส่ง ตชด.ภ.1 – น.1 สั่ง จนท. จัดกำลังรับมือม็อบนัด BTS อโศกเย็นนี้

พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต.ท.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการบุกเข้าขอคืนพื้นที่การชุมนุมของ หมู่บ้านทะลุฟ้า ข้างทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ระบุว่าการชุมนุมดังกล่าว เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย มีการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ, สถานที่ราชการบางส่วน และลักขโมยทรัพย์สินของราชการ เช่น ไฟฟ้าน้ำประปา, ทุบทำลายสิ่งของ ของราชการและประชาชน, ต่อท่อทิ้งสิ่งปฏิกูล ลงในคลองสาธารณะทำให้เกิดความสกปรกต่อพื้นที่โดยรวม มีการปิดถนนการจราจร ทำให้ประชาชนที่สัญจรได้รับความเดือดร้อน

  • คฝ.บุกขอคืนพื้นที่ #หมู่บ้านทะลุฟ้า หน้าทำเนียบ แต่เช้าตรู่ คุมตัวผู้ชุมนุมขึ้นรถ

โดยเมื่อช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมผู้ชุมนุม รวมทั้งหมด 70 ราย นำส่งกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (ตชด.ภ.1) เพื่อดำเนินคดีในความผิด เช่น การชุมนุมมั่วสุม ผิดกฎหมายพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และตามประกาศฉบับที่ 5 ลงวันที่ 5 มี.ค.64, ผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมโรค ยืนยัน มีการแจ้งเตือนมาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. 64 เป็นต้นมา ซึ่งการให้เวลาเก็บของ 3 นาที ไม่ถือว่าเป็นการให้เวลาที่น้อยเกินไป เพราะเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งเตือนมาโดยตลอดอยู่แล้ว ส่วนกรณีการจับกุมพระสงฆ์นั้น เบื้องต้น ยืนยันว่าเป็นการจับกุมจริง โดยพบเป็นพระสงฆ์ที่อยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม และขณะนี้ตำรวจได้นำตัวไปสึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนความผิดอื่น ๆ พนักงานสอบสวนจะต้องพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำความผิด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะที่การโพสต์ภาพในโซเชียล ระบุว่า การบุกค้นดังกล่าว ตำรวจห้ามไม่ให้สื่อมวลชน และ ตัวแทนของผู้ถูกจับกุม ร่วมสังเกตการณ์ หรือตรวจค้น

ยืนยัน ตำรวจปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยมีตัวแทนของสื่อมวลชน และตัวแทนของผู้ถูกจับกุม อีก 2 คน เป็นตัวแทนนำการตรวจค้น จึงขอให้ผู้ที่ส่งข้อมูลข่าวปลอม หยุดการกระทำทันทีและหากพบยังดำเนินการต่อจะถูกดำเนินคดี ซึ่งอาจเข้าข่ายตามความผิดพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ