น้ำป่าซัด อ.โคกโพธิ์ไชย กัดเซาะฝายขาด มวลน้ำไหลทะลักมุ่งหน้าหนุนน้ำชี ขณะอ.มัญจาคีรีน้ำเริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง

นายทองผัด โยธา อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านโสกใหญ่ ม.5 ต.บ้านโคก อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น พร้อมชาวบ้านในพื้นที่พาผู้สื่อข่าวดูฝายน้ำล้นห้วยลำตะเกียงตอนบน ซึ่งถูกมวลน้ำป่าจากภูผาแดงไหลลงมาตามลำห้วยเข้าพื้นที่การเกษตรใน 2 หมู่บ้าน ก่อนจะเอ่อล้นกัดเซาะดินจนหน้าฝายชำรุดกว้างกว่า 3 เมตร ทำให้มวลน้ำทั้งหมดได้ไหลลงสู่ลำห้วยกลอย และไหลลงสู่ลำน้ำชี ตามลำดับ ทำให้ปริมาณน้ำชีสูงขึ้นอีก

นายทองผัด โยธา ผู้ใหญ่บ้านบ้านโสกใหญ่ ม.5 กล่าวว่า น้ำจาภูผาแดงไหลลงมาถึงฝายเมื่อประมาณ3วันที่แล้ว โดยได้ท่วมล้นฝายแล้วกัดเซาะดินจนพังเสียหายน้ำได้ทะลักไปตามลำห้วยและจะไปลงสู่ลำน้ำชี ซึ่งครั้งนี้น้ำมาแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาซ่อมแซมดูแลฝายเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งด้วย เพราะที่ฝายแห่งนี้มีชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน 2 ตำบล คือตำบลนางาม และตำบลบ้านโคก ทั้งในเรื่องการอุปโภคบริโภค

“อยากจะให้เข้ามาช่วยซ่อมเป็นการด่วนก่อนที่จะหมดฝนและหมดน้ำ โดยก่อนหน้านี้เคยร้องขอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล จึงนำเงินมาซื้อดินถมก็พอช่วยกักเก็บได้บ้าง แต่พอฝายขาดเนื่องจากน้ำมาแรงก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาซ่อมแซมแก้ไขอย่างยั่งยืน”

ด้าน นายบุญมาก สุขพงษ์ อายุ 65 ปี ชาวบ้านซึ่งมีบ้านอยู่ริมฝาย กล่าวว่า ช่วงเช้าของวันนี้น้ำได้เซาะดินจากคอฝายมาเรื่อยๆจนขาดเป็นวงกว้าง จนกระทั่งล่าสุดก็เป็นอย่างที่เห็น สมัยก่อนคนโบราณบอกกันมาว่าน้ำมาจากเนินเขาจะไหลมารวมที่นี่ซึ่งเป็นจุดพักน้ำรอระบายลงคลอง ที่ผ่านมาพายุ3ลูก ลูกนี้หนักสุด มาเร็วและรุนแรง

ขณะที่ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ ปภ.ขอนแก่น ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และดำเนินการตามขั้นตอนในการช่วยเหลือซ่อมแซมฝายให้ได้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ก่อนที่ฝนจะหมด พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้สำรวจความเสียหายในพื้นที่รอยต่อที่จะรองรับมวลน้ำจาก จ.ชัยภูมิ และ จ.เลย เช่นที่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น มวลน้ำจาก จ.ชัยภูมิได้ไหลเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองมัญจาคีรีอีกครั้ง โดยระดับน้ำได้ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 30 ซม.