ผู้สื่อข่าว จ.นครราชสีมา รายงานว่า นายตะวัน มุสิกา หรือ น้องเก้า อายุ 16 ปี ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เป็นหนึ่งในตัวอย่างของเยาวชนที่สู้ชีวิต ดำรงชีพด้วยการเก็บของเก่าขาย หลังจากพ่อและแม่ได้เสียชีวิตไปกว่า 1 ปีแล้ว อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ สภาพทรุดโทรมเพียงลำพัง ปัจจุบันเรียนอยู่ที่โรงเรียนวิทยาลัยเทคนิคบัวใหญ่ ชั้นปีที่ 1 สาขาช่างยนต์ แต่ช่วงนี้ โรงเรียนยังไม่เปิดการเรียนการสอน จึงอยู่ที่บ้านหาเก็บของเก่าไปขายสร้างรายได้
ซึ่งน้องเก้า บอกว่า ตนเป็นลูกชายคนเล็ก มีพี่สาวทั้งหมด 4 คน แต่แยกย้ายกันไปมีครอบครัวและทำงานในต่างจังหวัด นานๆ พี่สาวจึงจะเดินทางมาเยี่ยม แต่ละวันตนต้องอาศัยออกไปเก็บหาของเก่าตามถังขยะ มาเก็บไว้ เมื่อได้จำนวนมากก็จะนำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า ได้เงินมาครั้งละ 1,000 บาท โดยเงินที่ได้จะเก็บมาเป็นค่าใช้จ่ายซื้อข้าวกินและไว้เป็นทุนการศึกษา ทำอย่างนี้มานานกว่า 1 ปีแล้ว ต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านคนเดียวหลังจากที่แม่เสียชีวิต จะมีเพื่อนบ้านแวะเวียนเข้ามาดูแลบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งสิ่งที่ทำให้มีกำลังใจต่อสู้ชีวิต ก็คือความใฝ่ฝันอยากเป็นช่างยนต์มืออาชีพ จึงต้องอดทน ขยัน ใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด อาศัยเก็บของเก่าขายเลี้ยงชีวิต ไม่เคยแบมือขอเงินจากใคร
โดยนางสุพิญ ไพราม อายุ 68 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันกับบ้านน้องเก้า บอกว่า น้องเก้าอาศัยอยู่คนเดียว หลังจากที่พ่อกับแม่เสียชีวิตไปแล้ว จะเห็นน้องเก้าออกไปเก็บของเก่าทุกวัน ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกไปตระเวนเก็บของเก่ามาขาย ทำอย่างนี้มานานกว่า 1 ปี แล้ว ตนและเพื่อนบ้านต่างเวทนา และเห็นว่าน้องเก้าเป็นเด็กขยัน ไม่เกเร สลับกันเข้ามาดูแลช่วยเหลือบ้างตามโอกาส
ล่าสุด มีผู้ใจบุญจำนวนมากได้บริจาคเงินช่วยเหลือน้องเก้า เป็นยอดเงินกว่า 3 แสนบาท ซึ่งน้องเก้ารู้สึกดีใจอย่างมาก และขอขอบคุณน้ำใจคนไทยที่ได้บริจาคและเข้ามาให้การช่วยเหลือ แต่ต้องของดรับบริจาค เนื่องจากเห็นว่า จำนวนเงินดังกล่าวน่าจะเพียงพอที่จะใช้เป็นทุนการศึกษาของตน โดยสัญญาว่า จะเป็นคนดี ตั้งใจเรียน จะใช้เงินอย่างประหยัด และจะยังออกไปเก็บของเก่าขายตามเดิม เพื่อให้มีเงินเข้ามาเสริมใช้จ่ายประจำวัน จะได้ไม่เป็นภาระของญาติพี่น้อง