“นิพนธ์” เผย ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลรธน.หมดแล้ว ปมสั่งให้พ้นตำแหน่ง พร้อมน้อมรับคำตัดสิน ยันทำดีที่สุดแล้ว เพื่อปกป้องผลโยชน์ของแผ่นดิน
เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยพ้นจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย หรือไม่ ในวันที่ 14 ก.ย.นี้ กรณีถูกสั่งพ้นนายก อบจ.สงขลา ว่า ถือว่าตนได้ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญไปหมดแล้ว ทั้งในประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพราะข้อห้ามที่ว่าขาดคุณสมบัติ ทั้งที่การถูกสั่งให้ออกจากราชการต้องเป็นการสั่งให้ออกจากการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ
นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า แต่กรณีที่คณะกรรมการป้องกันการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สั่งเรื่องของตนเป็นเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งไม่มีเรื่องทุจริต และตนได้ชี้แจงไปว่าสมัยเป็นนายก อบจ.สงขลา ในขณะนั้น มีการทุจริตการประมูลรถอเนกประสงค์ซ่อมบำรุงทาง 2 คัน และที่ไม่จ่ายเงินให้บริษัทที่ชนะการประมูล เพราะมีหนังสือจาก จ.สงขลา มาว่า ให้ระงับการจ่ายเงินไว้ก่อน และมีการรายงานข้อเท็จจริง
นายนิพนธ์ กล่าวว่า เมื่อสอบข้อเท็จจริงก็พบว่ามีการฮั้วกัน จึงทำให้เกิดคดีขึ้น ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ก็ให้ปฏิบัติตามหนังสือข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย ฉบับวันที่ 17 ธ.ค. 2552 ถ้าคดีอยู่ในศาลก็ให้รอจนกว่าศาลจะพิพากษาจนถึงที่สุด นอกจากนั้นยังมีการตั้งคณะกรรมการสอบว่ามีการฮั้วหรือไม่ ซึ่งก็ชัดเจนว่ามีการฮั้ว
โดยมีการนำเอกสารปลอมมาใช้ในหน่วยงานของรัฐ และนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ชนะการประมูล ซึ่งทั้งสภ.เมืองสงขลา และกองปราบปราม ก็สั่งฟ้องเรื่องการใช้เอกสารปลอม ซึ่งศาลออกหมายจับผู้ต้องหาหมดแล้ว และผู้ต้องหาก็หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศหมด ดังนั้นการที่ตนไม่จ่ายเงินก็เพราะมีการฮั้วกันแล้วจะให้จ่ายได้อย่างไร
นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยให้ตนออกจากตำแหน่ง นายก อบจ.สงขลา นั้น ตนก็ได้ฟ้องศาลปกครองกลาง เพื่อให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ดังนั้นก็ต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองกลางว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หากศาลมีคำพากษาสั่งเพิกถอนคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย ก็ถือว่าไม่มีคำสั่งดังกล่าวแล้ว
เมื่อถามว่า กังวลต่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่จะออกมาหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ทั้งหมดตนได้เรียนให้ศาลรัฐธรรมนูญรับทราบแล้ว และตนก็พร้อมน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลฯ เพราะถือว่าตนทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว และที่ทำไปก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดินโดยแท้ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีใครกล้าปกป้องผลประโยชน์ของชาติในวันข้างหน้า