นายต้องไปเผาบ้าน?! เจ้าของช็อกบ้านหรูเกือบวอด หนุ่มหิ้วน้ำมันลงมือ ดูวงจรปิดถึงกับอ๋อ อดีตเคยมาเป็นช่างก่อสร้างบ้านหลังนี้ ตร.ตามรวบ อ้างเสียงกระซิบสั่ง
วันที่ 12 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (11 พ.ค.) เกิดเหตุไฟไหม้บ้านพักสไตล์ลอฟท์ ซึ่งเป็นที่ตั้งบริษัทสไมล์ไลท์และซาวน์ด เลขที่ 111/1 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี จนได้รับเสียหายกว่าล้านบาท ก่อนที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง จะจับกุมคนร้ายได้ ทราบชื่อคือ นายคอง อายุ 31 ปี ชาวกัมพูชา ที่แคมป์คนงานก่อสร้างย่านบางนา โดย นายคอง ให้การอ้างว่า ได้รับคำสั่งเป็นเสียงกระซิบที่ข้างหูตลอดเวลาว่า ให้ไปลงมือเผาบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งก็เคยเป็นคนงานมาก่อสร้างบ้านหลังนี้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่บ้านหลังเกิดเหตุ พบ นายสมบัติ ปิ่นแก้วประเสริฐ อายุ 43 ปี เจ้าของบ้าน พบว่าเป็นบ้านหรู สไตล์ลอฟท์ 2 ชั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 80 ตร.ว. ราคาค่าก่อสร้างกว่า 4 ล้านบาท คนร้ายได้ทุบกระจกหน้าต่างผนังกำแพงชั้นล่างแตกเสียหายเกือบทุกบาน ภายในห้องรับแขก ห้องนอน และห้องครัวมีคราบเขม่าสีดำจากควันไฟกระจายลอยติดผนังไปทั่ว รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ ได้รับความเสียหายคือผ้าม่าน ชุดโซฟา นาฬิกา ทีวี ชุดเครื่องเสียง เพดาน หลอดไฟ และข้าวของในห้องครัว มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท
นายสมบัติ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ลูกน้องที่บริษัทโทรมาแจ้งตนว่ามีคนร้ายบุกเข้ามาลอบวางเพลิง ตนจึงรีบโทรแจ้งดับเพลิงให้เข้ามาช่วย หลังจากนั้นได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ทั้งหมด 16 ตัวรอบบ้าน พบว่าคนร้ายเดินมาที่หน้าบ้านตั้งแต่เวลา 12.00 น.จากนั้นยืนเตรียมตัวอยู่ที่หน้าบ้านประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อจะปีนกำแพงบ้านเข้ามา โดยใช้ไม้ต่อทำเป็นบันไดปีนขึ้นกำแพง และเดินตามขอบกำแพงเข้ามาด้านในบ้านตรงจุดที่มีรอยต่อฉากเหล็กกันที่ติดไว้บนกำแพงรั้วอีกที
จากนั้นคนร้ายปีนลงเข้ามาในบ้านพร้อมกับท่อนเหล็กและปี๊บบรรจุน้ำมันเบนซิน ก่อนจะใช้แท่งเหล็กตีกระจกผนังกำแพงจนแตกเกือบหมด แล้วสาดใส่เข้าไปด้านใน จากนั้นจึงจุดไฟเผา ต่อมาเมื่อตนตั้งสติพยายามดูรูปพรรณคนร้ายรายนี้ จึงพบว่า เคยเป็นอดีตคนงานก่อสร้างที่มากับทีมผู้รับเหมาที่มาทำบ้านให้ตนเมื่อ 3 ปีมาแล้ว จึงส่งหลักฐานให้ตำรวจจับกุมคนร้าย
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า ตนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะบาดหมางกับใครมาก่อนเลย จึงยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุวางเพลิงบ้านตนทำไม เพราะพฤติกรรมมีการเตรียมตัวมาอย่างดี ใจเย็นมาก หลังก่อเหตุยังเดินออกไปนั่งสูบบุหรี่หน้าปากซอย แล้วเดินไปตามถนนแบบใจเย็น ตนจึงไม่แน่ใจว่าอดีตคนงานรายนี้เสพยาเสพติดจนเกิดอาการหลอนหรือไม่
นายสมบัติ กล่าวต่ออีกว่า หลังทราบตัวคนร้าย จึงโทรไปถามผู้รับเหมาที่ก่อสร้างบ้านและโกดังให้ตน ซึ่งผู้รับเหมาก็บอกว่า นายคอง อดีตคนงานก่อสร้างรายนี้ถูกไล่ออกจากแคมป์ไปแล้ว เพราะมีพฤติกรรมกินเหล้าเมายา และมีปัญหากับเพื่อนคนงานด้วยกัน
ด้าน พ.ต.อ.นภธร วาชัยยุง ผกก.สภ.บางศรีเมือง กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจหาสารเสพติดของผู้ต้องหา ซึ่งคดีลอบวางเพลิงถือว่าเป็นคดีใหญ่ มีอัตราโทษสูง จึงจำเป็นต้องสอบสวนผู้ต้องหาต่อหน้าทนายความด้วย เพื่อหาสาเหตุและแรงจูงใจ เนื่องจากพบว่า นายคอง ได้เรียกรถแท็กซี่จากปากน้ำมายังบ้านหลังที่ก่อเหตุพร้อมกับปี๊บน้ำมันเหมือนตั้งใจมาลงมือด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่คำให้การในเบื้องต้นที่อ้างว่ามีเสียงกระซิบที่หูสั่งให้ลงมือ ยังไม่ปักใจเชื่อ