นายกสมาคมแพทย์นิติเวช เผย เสี่ยเบนท์ลีย์ ต้องมีการคำนวณปริมาณแอลกอฮอล์ย้อนกลับ

Home » นายกสมาคมแพทย์นิติเวช เผย เสี่ยเบนท์ลีย์ ต้องมีการคำนวณปริมาณแอลกอฮอล์ย้อนกลับ
เสี่ยเบนท์ลีย์-7

เสี่ยเบนท์ลีย์ เสี่ยงงานเข้าอีกรอบ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย ชี้ผลตรวจเลือดหาแอลกอฮอล์ต้องคำนวณย้อนกลับ เพราะทุกชม.จะหายไป

เสี่ยเบนท์ลีย์-4-1
ขอบคุณภาพ กรรมกรข่าว

จากกรณีเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 66 ได้เกิดเหตุการณ์รถเบนท์ลีย์ชนปาเจโร่บนทางด่วนเฉลิมนครสุข สวัสดิ์ – ดินแดง ส่งผลให้รถปาเจโร่พลิกคว่ำ ก่อนรถดับเพลิงอปพร. ที่ขับมาเลนขวาชนซ้ำ จนทำให้มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 8 คน ทราบชื่อคนขับเบนท์ลีย์ภายหลังคือ นายสุทัศน์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจ ทั้งนี้ยังมีภาพถ่ายในเหตุการณ์ซึ่งตรวจพบว่า ภายในรถเบนท์ลีย์ พบขวดไวท์ยี่ห้อหนึ่ง

เสี่ยเบนท์ลีย์-3-1
ขอบคุณภาพ กรรมกรข่าว
  • ณวัฒน์ ไลฟ์สดจากอมเริกา หลัง เพชรพันปียอมรับ รางวัลที่1 คือหวยทิพย์
  • แชร์ว่อนเน็ต! ภาพหมู่ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และครอบครัวฝ่ายหญิง
  • เลี่ยงได้เลี่ยง เช็กด่วน! 5 อาหารกระตุ้นภูมิแพ้ เตรียมบอกลาจังก์ฟู้ด

โดยวันนี้ โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า ผลการตรวจเลือดอย่างเป็นทางการทางห้องแลป พบว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ หรือ เสี่ยเบนท์ลีย์ มีผลเลือดประมาณแค่กว่า 10 มิลลิกรัมฯ ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมฯ ทั้งนี้ได้มีการส่งให้พนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่รับผิดชอบไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยกระบวนการจากนี้ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องชี้แจงรายละเอียดคดีต่อไป

เสี่ยเบนท์ลีย์-2-2
ขอบคุณภาพ กรรมกรข่าว

ทั้งนี้มีกระแสดราม่า เรื่องเวลาการส่ง นายสุทัศน์ หรือ เสี่ยเบนท์ลีย์ ไปตรวจเลือด อาสาสมัครกู้ภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่า กว่าจะออกจากสน.ทางด่วน 1 ก็ประมาณ 4.30 น. งานนี้ทำให้เกิดคำถามว่า “แล้วแบบนี้จะส่งผลถึงเรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายหรือไม่”

เสี่ยเบนท์ลีย์-4-2

ล่าสุด ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย และหัวหน้าห้องปฏิบัติการนิติเวชศาสตร์ ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Smith Fa Srisont ว่า ที่ตำรวจไม่ได้ให้เป่าลมหายใจตรวจหาแอลกฮอล์ในเลือดของคนขับรถ แต่ส่งไปให้แพทย์เจาะเลือดส่งตรวจแทนจริงๆ พอยอมรับได้นะครับกับการให้เจาะเลือด แต่ต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์ด้วย ว่า “แอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ป่วยจะหายไปทุกๆ ชั่วโมงที่ผ่านไป” ดังนั้นผลเเอลกอฮอล์ในเลือด ณ เวลาที่เจาะ จะใช้ไม่ได้ ต้องส่งให้แพทย์นิติเวชทำการคำนวณหาแอลกอฮอล์ในเลือด ณ เวลาที่เกิดอุบัติเหตุ

เสี่ยเบนท์ลีย์-3-2
ขอบคุณภาพ Smith Fa Srisont

นอกจากนี้ต้องส่งคนขับรถไปเจาะตรวจเลือดให้เร็วที่สุด ถ้ามีการประวิงเวลาในการตรวจ เท่ากับเป็นการปฏิเสธการตรวจได้เลยเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ผมเห็นมานานว่า ในไทยทางตำรวจไม่ค่อยมีการส่งให้แพทย์ทำการคำนวณย้อนกลับกัน ทั้งๆ ที่ต่างประเทศทำกันเป็นเรื่องปกติ หรือในไทยบริษัทประกันชีวิตก็มีการให้คำนวณแบบนี้แล้วนอกจากนี้บางทียังมีการส่งคนขับรถไปโรงพยาบาลให้เจาะเลือดช้า บางทีที่เคยเจอคือ ไม่กำหนดให้ไปเจาะเลยทันที ให้ไปตอนเช้าอีกวันเลยก็มี ซึ่งแบบนี้แทบไม่มีความหมายเลยครับ

เสี่ยเบนท์ลีย์-1-1
ขอบคุณภาพ Smith Fa Srisont

นอกจากนี้ ในการเลือกให้เป่าลมหายใจตรวจแอลกฮอล์หรือเจาะเลือด ตามกฎหมายระบุว่าให้ตรวจจากการเป่าลมหายใจก่อน ถ้าไม่สามารถทดสอบได้ จึงตรวจจากเลือด ดูได้ตามรูป ดังนั้นไม่ควรอ้างว่าตรวจจากเลือดแปลผลดีกว่า แล้วไม่ตรวจลมหายใจ ทั้งๆ ที่คนขับรถสบายดี เพราะผิดหลักกฎหมายและการตรวจช้าลงก็ได้ผลที่ถูกต้องช้าลงด้วย

ปล. หากเคสนี้ไม่มีการคำนวณย้อนกลับ สามารถเชิญผมไปเป็นพยานเพื่อช่วยในการคำนวณได้นะครับ

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ