นับถอยหลัง… ตลาดการซื้อขายพรีเมียร์ลีก – [OPINION]

Home » นับถอยหลัง… ตลาดการซื้อขายพรีเมียร์ลีก – [OPINION]
นับถอยหลัง… ตลาดการซื้อขายพรีเมียร์ลีก – [OPINION]

ในช่วงวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็จะเป็นการเริ่มต้นของเดือนสุดท้ายของตลาดการซื้อขายในรอบเดือนสิงหาคม 2023 แล้ว ซึ่ง 1 เดือนสุดท้ายที่จะยังคงวุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการซื้อขายนักเตะใหม่ของทุกสโมสรในพรีเมียร์ลีก

หลายทีมขยับตัวเยอะ บางทีมขยับน้อย บางทีมยังไม่มีขาเข้าเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่ทั้งหมดทุกทีมก็มีข่าวกับการซื้อขายนักเตะให้อ่านกันทุกวัน

พรีเมียร์ลีกกับตลาดการซื้อขายรอบนี้ แน่นอน อาร์เซนอล คือทีมที่สร้างสีสันที่สุดในช่วงที่ผ่านมา กับการลงทุนระดับ 200 ล้านปอนด์แลกนักเตะ 3 คน ขณะที่ เชลซี อยู่ในช่วง “Clearance Sale” กับการขายผู้เล่นชุดใหญ่ครบทีมไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้เล่นอีกหลายคนที่ต้องปล่อยออกเพื่อการลงทะเบียน 25 คนในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้
bแมนเชสเตอร์ ซิตี้ “ทริปเปิ้ลแชมป์” ฤดูกาลที่แล้ว เรื่อยๆ มาเรียงๆ กับการเซ็นสัญญานักเตะใหม่ ยอสโก กวาร์ดิโอล เป้าหมายหลักของพวกเขายังคงหาบทสรุปลงตัวไม่ได้ และเชื่อว่าถ้าเกิดการย้ายทีมจะกลายเป็นกองหลังคนแรกที่มีตัวเลขค่าตัวถึง 100 ล้านยูโร เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับตำแหน่งหน้าเป้าที่หลายคนรอคอย กับ ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่ใกล้เคียงความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ

ลิเวอร์พูล เป็นอีกทีมที่มีการปล่อยผู้เล่นออกไปเยอะพอสมควร โดยเฉพาะล่าสุดกับการเสีย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ออกไปอีกคน ทำให้พวกเขาต้องมองหากองกลางมาเพิ่ม หลังจากได้ทั้ง โดมินิค โซบอสซ์ไล และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มาร่วมทีมได้แล้ว ดีลการเจรจากับ โรเมโอ ลาเวีย ยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นไปได้สูง เมื่อคู่ค้าอยู่ในลีกรอง เมื่อนักเตะก็มองหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง เคาะตัวเลขจบก็น่าจะเรียบร้อย ปีหน้ารอดูแผงกลางโฉมใหม่กันได้เลย

มองมาที่ สเปอร์ส กันบ้าง พวกเขาอยู่ในปีที่สุ่มเสี่ยงกับการเสีย แฮร์รี เคน ที่สุดแล้วในรอบหลายปี เมื่อผลงานไม่มีอะไรให้จดจำในปีที่แล้ว เมื่อการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทุกอย่างกลับให้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากเดิม เคน ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่สำหรับเขาที่อายุ 30 ปี เดิมพันบนความภักดีกับทีมรัก หรือจะเลือกย้ายไปมองหาโอกาสที่น่าจะมีมากกว่าในการลุ้นความสำเร็จ ทุกการตัดสินใจคือความเสี่ยง เลือกแล้วอย่าเสียใจทีหลัง แต่ถึงเวลาต้องเลือกอีกครั้งหนึ่งแล้ว
oทีมที่เข้าสู่ตลาดได้น่าสนใจที่สุดสำหรับผู้เขียนคือ แอสตัน วิลลา และ นิวคาสเซิล ว่ากันตามทรงแล้ว วิลลา ภายใต้ยุคของ นาสเซอร์ ซาฟิริส และ เวส อีเดน ลงทุนมาก็หลายร้อยล้านปอนด์ ตั้งแต่ยุคที่ “สิงห์ผงาด” อยู่ในแชมเปียนชิพ

มาวันนี้ พวกเขาเสริมทีมน่าสนใจมาก การได้ตัว เปา ตอร์เรส เซนเตอร์แบ็กที่หลายสโมสรใหญ่อยากได้ตัว หรือ มุสซา ดิยาบี ปีกฟอร์มดีจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน น่าจะทำให้ทีมของ อูไน เอเมรี ผู้ซึ่งมักทำผลงานดีกับสโมสรระดับกลางตารางดีถึงดีมาก ไปได้สวยในฤดูกาลนี้

ขณะที่ทัพสาลิกาดง การเซ็นสัญญา ซานโดร โทนาลี เข้ามา ไม่ใช่แค่การเซ็นสัญญาราคาแพง แต่มันคือการบ่งบอก “คลาส” ของทีมที่ยกระดับขึ้นอีกขั้น พวกเขาเป็นทีมที่มีเจ้าของที่ร่ำรวยที่สุดในโลกก็จริง แต่การใช้จ่ายของพวกเขาเดินเกมอย่างมีระบบ ปรับทีมขั้นพื้นฐาน, โละนักเตะที่ไม่ใช้, หาแกนหลักเข้ามาเสริม และวางแผนการลงเล่นเป็นทีมเดียวกัน
pทีมที่มองแล้ว “เหนื่อยที่สุด” สำหรับผู้เขียนมี 2 สโมสรด้วยกันคือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์ยูฟา ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก 2023 และ เอฟเวอร์ตัน

“ขุนค้อน” เสียดวงใจที่ชื่อ ดีแคลน ไรซ์ ออกจากทีมไปแล้วด้วยมูลค่า 105 ล้านปอนด์ เป็นตัวเลขที่สมใจอยากบอร์ดบริหารของทีม และคุ้มค่าในแง่ของราคา แต่สิ่งที่ตามมาคือ พวกเขาเจอกับปัญหาการโก่งราคาผู้เล่นที่พวกเขาอยากได้มาทดแทนอย่างยิ่ง เมื่อทุกสโมสรต่างรู้ว่าพวกเขามีงบประมาณก้อนใหญ่ พวกเขาก็พร้อมจะเรียกราคาให้มากกว่าปกติ และที่สำคัญ พวกเขายังไม่ได้ใครที่เป็นตัวหลักมาร่วมงานด้วยเลย กลายเป็นลูกโซ่จากดีลระดับโลกที่พวกเขาขายออกไป

“ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ลุ้นหนีตกชั้นมาแล้ว 2 ฤดูกาลติดต่อกัน แถมเป็นการลุ้นในแบบวันสุดท้ายทั้ง 2 ฤดูกาลด้วย มันอาจจะเป็นการโล่งใจที่รอด แต่ก็ต้องมองหาเหตุผลด้วยว่าทำไมทีมที่มีการลงทุนมากกว่า 500 ล้านปอนด์ แถมกำลังจะมีสนามเหย้าแห่งใหม่ในอีกไม่ช้านี้ ถึงกลับมาจบด้วยอันดับ 17 ถึง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน? ทีมนี้อยู่บนเครื่องหมายคำถามมากมายว่า ฤดูกาลนี้พวกเขาจะเรียกความเชื่อมั่นได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อการซื้อข้าวของพวกเขายังไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไรนัก ท่ามกลางข่าวที่ ฟาฮัด โมชิริ เจ้าของสโมสรมองหาผู้ร่วมทุนหน้าใหม่มาช่วยกันนำพาทีมไปต่อ
nเหลือเวลาอีกประมาณ 30 วัน การซื้อขายก็จะจบลงในรอบนี้ แต่สำหรับพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ถึง 3 สัปดาห์กันแล้ว ทีมไหนพร้อมหรือไม่พร้อม ส่วนหนึ่งสามารถดูกันได้ที่การเสริมทีม และการเซตผู้เล่นตัวหลักในทุกการเล่นเกมอุ่นเครื่องที่ต้องบอกว่า ยิ่งใกล้ปิดตลาดมากขึ้นเท่าไร ยิ่งยากจะได้ตัว ยิ่งใกล้เท่าไร ตัวหลักของแต่ละทีมจะมีราคาแพงขึ้นกว่าเดิม เพราะสงครามครั้งใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ