คนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่า การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงเปลี่ยนแปลงปริมาณอาหารแค่ 10 กรัม

ดร.แคร์รี รัคซ์ตัน (Dr.Carrie Ruxton) นักวิทยาศาสตร์ด้านโภชนาการจากสหราชอาณาจักร ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานด้านโภชนาการและวิจัยทางสุขภาพในระดับสากล โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารและการส่งเสริมสุขภาพผ่านการเลือกทานอาหารที่เหมาะสม ได้กล่าวว่า การรับประทาน “ไฟเบอร์” เพียง 10 กรัมต่อวัน อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ 13% และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ 15%

พร้อมกล่าวเสริมด้วยว่า ความจริงแล้วผู้ใหญ่ควรบริโภคไฟเบอร์ 30 กรัมต่อวัน และผู้ที่ขาดสารอาหารประเภทนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคร้ายแรงที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลก ได้แก่ โรคเบาหวานประเภท 2 โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคมะเร็ง โดยย้ำว่า“ใยอาหารจากธัญพืชทั้งเมล็ด ผลไม้ และผักยังช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งลำไส้ด้วย”

โดย ดร.รัคซ์ตัน ได้แนะนำวิธีการเพิ่มไฟเบอร์ในอาหาร ดังนี้

• เพิ่มผักหรือสลัดเป็นเครื่องเคียงในทุกมื้อเพื่อเพิ่มไฟเบอร์ รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ
• เพิ่มความหรูหราและเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับมื้ออาหารด้วยอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น โรยหน้าข้าวต้ม ซุป หรือสลัดด้วยถั่วและเมล็ดพืชกรุบกรอบ
• เมื่อปรุงอาหารประเภทตุ๋นหรือแกง ให้ใส่ถั่วหรือถั่วเลนทิลเพิ่มลงไป

“ไฟเบอร์ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นหลายประการด้วยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอล บำรุงแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ ทำให้เราอิ่มนานขึ้นหลังมื้ออาหาร และช่วยขับสารพิษผ่านระบบย่อยอาหาร”

“น่าเศร้าที่การเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้หรือโรคหัวใจทั่วโลกประมาณ 1 ใน 10 ราย มีความเกี่ยวข้องกับการขาดใยอาหาร ซึ่งเราแก้ไขได้อย่างง่ายดาย การเพิ่มใยอาหารเพียง 10 กรัมต่อวัน หรือผลไม้ 3 ส่วน อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้15% และลดความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ได้ 13%” ดร.รัคซ์ตัน  กล่าว