นักวิทย์จีนคิดค้นวิธีเก็บ “ภาพจิตรกรรมฝาผนัง” ในถ้ำหิน-เป็นรหัสเข้าสู่ดีเอ็นเอ
นักวิทย์จีนคิดค้นวิธีเก็บ – ซินหัว รายงานว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์ของจีนแปลงภาพดิจิทัลของจิตรกรรมฝาผนังภายในถ้ำของเมืองตุนหวง จำนวน 10 ภาพ ให้เป็นรหัสเข้าสู่ ดีเอ็นเอ จำนวน 210,000 สาย ผ่านการจัดลำดับนิวคลีโอไทด์ในไฟล์บีบอัดขนาด 6.8 เมกะไบต์ และสามารถถูกกู้คืนได้อย่างแม่นยำจากตัวอย่างที่เสียหายรุนแรง ซึ่งได้รับการเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 70 วัน
เมืองตุนหวง มณฑลกานซู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เป็นที่ตั้งของหมู่ถ้ำหินแกะสลักโม่เกา ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ภายในถ้ำเก็บสะสมงานศิลปะทางพุทธศาสนาไว้มากมาย รวมถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดราว 45,000 ตารางเมตร
การจัดเก็บข้อมูลในดีเอ็นเอเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีความหนาแน่นสูง ความทนทานในระยะยาว และค่าบำรุงรักษาต่ำ อย่างไรก็ดีข้อผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นจากการเข้ารหัสในหลอดทดลอง ยังคงเป็นความท้าทายทางเทคนิคที่สำคัญสำหรับเทคโนโลยีนี้
ทีมนักวิจัยซึ่งนำโดยนายหยวน อิงจิ้น จากมหาวิทยาลัยเทียนจิน ได้พัฒนาอัลกอริธึมประกอบสายดีเอ็นเอตั้งแต่เริ่มต้นที่เอื้อต่อการผิดพลาด ช่วยให้ภัณฑารักษ์จิตรกรรมฝาผนังกู้คืนข้อมูลได้อย่างแม่นยำจากสารละลายดีเอ็นเอที่เก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ 9.4 องศาเซลเซียส
โดยไร้ซึ่งการป้องกันใดๆ เป็นเวลานานราว 20,000 ปี โดยทีมนักวิจัยตั้งค่าความซ้ำซ้อนของสายดีเอ็นเอไว้ที่ร้อยละ 7.8 ซึ่งรองรับการกู้คืนข้อมูลที่เชื่อถือได้เมื่อตัวถอดรหัสได้รับสายดีเอ็นเอมากกว่าร้อยละ 95
ก่อนหน้านี้ทีมนักวิจัยของนายหยวนได้ออกแบบโครโมโซมเทียมของยีสต์ ซึ่งเข้ารหัสรูปภาพ 2 ภาพและคลิปวิดีโอ โดยผลการศึกษานี้ได้รับการเผยแพร่ในวารสารเนชันแนล ไซเอนซ์ รีวิว เมื่อปี 2564
ทั้งนี้ ความก้าวหน้าครั้งล่าสุดเผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ คอมมูนิเคชันส์ ทำให้ดีเอ็นเอกลายเป็นหนึ่งในหน่วยความจำที่แข็งแกร่งที่สุดที่สามารถช่วยปกป้องและส่งต่อมรดกทางวัฒนธรรมสู่คนรุ่นถัดไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ช็อก! ภาพวาด ‘โมนาลิซา’ โดนชายปริศนา ละเลงเค้กใส่
- ภาพวาดฝีมือนายกฯ เชอร์ชิล ประมูลสูงเป็นประวัติศาสตร์-เฉียด 350 ล้าน!