“นอท” วอนประชาชน 14 พ.ค. เว้นวรรคพรรคทหาร เอากองทัพออกจากการเมือง

Home » “นอท” วอนประชาชน 14 พ.ค. เว้นวรรคพรรคทหาร เอากองทัพออกจากการเมือง


“นอท” วอนประชาชน 14 พ.ค. เว้นวรรคพรรคทหาร เอากองทัพออกจากการเมือง

“นอท” วอนประชาชน 14 พ.ค. เว้นวรรคพรรคทหาร เอากองทัพออกจากการเมือง โวพรรคเปลี่ยนแม้เป็นพรรคเล็ก แต่คิดทำเรื่องใหญ่

เมื่อวันที่ 29 เม.ย.66 นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธ์ หรือ นอท หัวหน้าพรรคเปลี่ยน ร่วมแสดงความคิดเห็นเวทีดีเบต “New Gen Vote อนาคตประเทศไทย ในมือคนรุ่นใหม่” ซึ่งถามโดยตัวแทนน้องๆคนรุ่นใหม่ ถึงนโยบายของพรรคเกี่ยวกับกองทัพ จะปฏิรูปกองทัพเพื่อให้ภาพลักษณ์ของกองทัพกลับมาดูดีขึ้นในสายตาของคนรุ่นใหม่ ว่า

การที่จะปฏิรูปกองทัพสิ่งแรกคือ วันที่ 14 พ.ค. ต้องไปเลือกตั้งให้กองทัพออกจากการเมืองก่อน เพราะที่เกิดความเสียหายอยู่ทุกวันเนื่องจากกองทัพวนเวียนอยู่กับการเมืองไทยมากว่า 90 ปีแล้ว ธุรกิจเกณฑ์ทหารเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้ดี เริ่มตั้งแต่การเกณฑ์ทหาร สัสดีได้เงินไม่ต่ำว่า 40,000-50,000 บาท ธุรกิจเครื่องแต่งกาย เสื้อผ้า รองเท้า กางเกง มีค่าคอมมิสชั่นหมด ถ้าไม่เป็นทหารอยากออกไปอยู่ข้างนอกก็นำเงินเดือนให้กับนาย หรือเป็นทหารรับใช้

“ดังนั้นสิ่งที่พรรคเปลี่ยนต้องการจะทำคือต้องทำให้ทหารเป็นอาชีพทหารมีเกียรติ ทุกคนอยากเข้าไปเป็นทหาร เพื่อให้หมดคำถาม “มีทหารไว้ทำไม” อยากให้เข้าไปเป็นทหารที่เกิดจากความสมัครใจ แต่สิ่งที่ต้องทำมากที่สุดคือการเอาทหารออกจากการเมือง ขอให้ทุกคนอย่าเลือกพรรคทหารกลับเข้ามา เพราะมีทางเลือกที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตยหรือพรรคคนธรรมดา”นายพันธ์ธวัช กล่าว

นายพันธ์ธวัช กล่าวต่อว่า เห็นว่าอาชีพในสังคมที่ควรเร่งปรับขึ้นเงินเดือนอย่างเร่งด่วนคือ ครู เพราะครูคือสารตั้งต้นของเด็กที่จะเติบโตในอนาคต ซึ่งเงินเดือนครูน้อยมากโดยเฉพาะครูอัตราจ้าง เพราะงบที่ลงไปยังสถานศึกษามีน้อยมาก จึงเห็นว่าจะต้องจัดงบประมาณด้านการศึกษาให้ไปถึงบุคลากรครูให้มากขึ้น ให้สามารถเลี้ยงชีพได้ มีสวัสดิการที่ดี อีกทั้งต้องมีธุรการมาจัดทำงานด้านเอกสาร ให้ครูมุ่งมั่นกับการพัฒนาการเรียนการสอน หากพรรคเปลี่ยนสามารถเข้าไปทำหน้าที่ จะเข้าไปช่วยเป็นปากเป็นเสียงเพื่อให้ครูมีความเป็นอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีและมีเกียรติ

นายพันธ์ธวัช กล่าวด้วยว่า ในระบอบรัฐสภาไทยมีพรรคการเมืองหลายพรรค ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ทุกพรรคต่างมีนโยบายที่ดีให้ประชาชน ซึ่งพรรคเปลี่ยนแม้เป็นพรรคขนาดเล็กแต่ทำเรื่องใหญ่ มีนโยบายดูแลคนหาเช้ากินค่ำ พร้อมอาสาตัวเข้าไปเป็นปากเสียงให้กับคนรุ่นใหม่ ตนเป็นคนเริ่มต้น Tech Start up ที่สร้างปรากฎการณ์ให้กับประเทศ ตนห่วงหากคนรุ่นใหม่มีไอเดียทำธุรกิจ แต่กฎหมายตามไม่ทัน ถูกรังแกจากภาครัฐ ตนจึงอยากจะเข้าไปเป็นกระบอกเสียงเพื่อไม่ให้คนรุ่นตต่อโดนเหมือนตนเอง พร้อมขอเสียงสนับสนุนพรรคเปลี่ยน เพราะมีความตั้งใจอยากเข้าไปเปลี่ยนประเทศ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ