จากกรณีที่โลกออนไลน์แชร์คลิปจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ขณะที่นักศึกษาฝึกงานหญิง กำลังเดินมาที่หน้าลิฟต์ จู่ ๆ ก็มีผู้ช่วยพยาบาลชายเข้ามาล็อกคอจากด้านหลัง ก่อนจะลากไปทางบันไดหนีไฟ หวังพาตัวไปกระทำอนาจาร แต่นักศึกษาสาวไม่ยอม ฮึดสู้ ตีเข่าใส่ ก่อนเตะซ้ำอีกที ทำให้รอดมาได้หวุดหวิด นั้น

ล่าสุดเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ก็ได้ออกมาอัปเดตเกี่ยวกับกรณีนี้ โดย นางสาว เพชราภรณ์ หรือน้องใบตอง ผู้เสียหายในเหตุการณ์ ถูกผู้ช่วยพยาบาลชายพยายามล็อคตัวเพื่อจะลวนลาม ก็ได้ออกมาเปิดใจ พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้กับทีมข่าวฟัง โดยระบุว่า ตนเป็นนักศึกษาใหม่ กำลังฝึกงาน ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และอยู่ในช่วงกำลังเปลี่ยนผลัดการทำงาน ซึ่งตนกำลังจะเข้าเวรบ่าย ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปสั่งอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้กันกับโรงพยาบาล และผู้ก่อเหตุกำลังนั่งดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในร้านอาหาร ที่ตนไปสั่งอาหารพอดี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แม่ค้าติดลูกค้าอยู่ ไม่สามารถมาส่งอาหารด้วยตนเองได้ ผู้ก่อเหตุจึงอาสานำอาหารที่ตนสั่งมาส่งให้เอง โดยอ้างว่า จะขึ้นเวรดึก และไปที่ตึกใกล้ๆ กัน จึงอาสานำอาหารมาส่งให้ แต่หอดังกล่าวที่ตนขึ้นเวรเพื่อทำงานเป็นหอหญิง ห้ามผู้ชายขึ้นโดยเด็ดขาด และวันเกิดเหตุก็เป็นช่วงยามวิกาล ทำให้ตนไม่โอเค

ในช่วงเวลานั้น แม่ค้าได้โทรมาแจ้งตนว่าอาหารมาถึงแล้ว ตนจึงเดินออกไปรับอาหาร แต่ปรากฏว่า ไปพบกับผู้ก่อเหตุ ยืนอยู่ และมองมาที่ตน โดยยกมือทั้งสองข้างขึ้นมา ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าจะยกมาเพื่ออะไร ก็เลยมองผ่านไป ส่วนผู้ก่อเหตุ ก็บอกให้ตนสแกนคิวอาร์โค้ดจ่ายค่าอาหาร ซึ่งวางอยู่ที่โต๊ะการพยาบาล ตอนจึงรีบสแกน เพื่อที่จะรีบทานอาหาร แต่ผู้ก่อเหตุมองซ้ายมองขวา และเดินอ้อมมาด้านหลัง พร้อมกับล็อคคอตน แล้วพยายามลากไปทางประตูหนีไฟ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก แต่ตนไม่ยอม จึงได้ต่อสู้กับผู้ก่อเหตุ เท่าที่ตนจะทำได้

น้องใบตองกล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ ในช่วงที่มีการฝึกงาน ผู้ก่อเหตุมักมีพฤติกรรมพูดจาแทะโลม โดยมักใช้คำพูดว่า “ชอบเรานะ” บางครั้งเรียกตนว่า “ที่รัก” ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว ตนก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นการจีบ แต่คิดว่าเป็นการแหย่น้องหรือเปล่า และได้ทำแบบนี้กับหลายคนมาแล้วด้วยหรือไม่ ซึ่งผู้ก่อเหตุก็อายุมากกว่า 30 ปี แล้ว และในช่วงเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุมีการดื่มสุรามาด้วย

เหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้ดำเนินการแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ถูกปลดจากราชการเรียบร้อยแล้ว

ชมคลิป คลิ๊ก