การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงสนามนัดที่ 3 กลุ่มเอ พบกับ ฟิลิปปินส์
ก่อนการแข่งขันเริ่ม ทีมชาติไทย ชนะมา 2 นัดรวดมี 6 คะแนน นำเป็นจ่าฝูง ส่วน ฟิลิปปินส์ ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 คะแนน รั้งอันดับ 3
เกมนี้ ไทย ส่ง 11 ตัวจริงประกอบด้วย ฉัตรชัย บุตรพรม, ธีราทร บุญมาทัน, มานูเอล ทอม เบียร์ห, สารัช อยู่เย็น, สุภโชค สารชาติ, กฤษดา กาแมน, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ธีรศิลป์ แดงดา และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กัปตันทีม
เริ่มเกมเป็นทีมชาติไทย ที่ครองบอลทำเกมบุกได้มากกว่า จนนาที 26 มาพังประตูขึ้นนำสำเร็จ 1-0 จากจังหวะทะลุมาทางกราบซ้าย ของธีราทร บุญมาทัน ที่หลบผู้เล่นฟิลิปปินส์ ไป 1 คน ก่อนเปิดยัดเข้ากลางไปให้ ธีรศิลป์ แดงดา ที่วิ่งมาซัดด้วยซ้ายจังหวะเดียวเข้าไปตุงตาข่าย และเป็นประตูที่ 18 ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ของ ธีรศิลป์ ขึ้นแท่นเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล อาเซียน เหนือ นอห์ อลัม ชาห์ ดาวยิงสิงคโปร์ ที่ทำไว้ 17 ประตู
หลังจากนั้นทีมชาติไทย ยังหาโอกาสบวกสกอร์เพิ่มได้หลายจังหวะ แต่สุดท้ายยังขาดๆเกินๆ จบครึ่งแรก ไทย นำ ฟิลิปปินส์ 1-0
หลังสกอร์กลับมาเท่ากัน ช้างศึก พยายามโหมบุกอย่างหนัก จนนาทีที่ 78 ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ สำรองที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมา โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ ก่อนจะเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ทีมชาติไทย ออกนำอีกครั้ง 2-1