ธรรมนัส ไม่ขอพูดถึง บิ๊กป้อม แคนดิเดตนายก เผยเรื่องของพรรคอื่น อุดมการณ์อยู่เคียงข้างประชาชน เตรียมสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมที่ลำปาง มั่นใจชนะได้

วันที่ 10 มิ.ย.2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย เผยถึงคุณสมบัติของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ สามารถเป็นแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคการเมืองอื่น ซึ่งตนไม่ขอพูดถึง

อุดมการณ์ของพรรคยังชัดเจนว่าจะอยู่ข้างประชาชน และค้านทุกกรณีที่กระทบประชาชน ทั้งนี้การทำงานภายใต้การนำของตน จะเป็นเอกภาพมากขึ้น ทั้งนี้ที่ประชุมมอบเลขาธิการพรรค นายไผ่ ลิกค์ ดำเนินการจัดประชุมกก.บห.เพื่อดำเนินการในเรื่องต่างๆ ของพรรคต่อไป

นอกจากนั้นยังเตรียมการย้ายที่ทำการพรรค มาใช้อาคารปานศรี ถ.รัชดาภิเษก ซึ่งเป็นที่ทำการเดิมของพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากสมาชิกพรรคระบุว่า ที่ทำการพรรคถนนศรีนครินทร์ อยู่ค่อนข้างไกล ถึงแม้จะเป็นที่เก่าของเขา แต่เป็นที่ใหม่ของเรา

ตอนนี้กำลังตกแต่งกำลังขนเฟอร์นิเจอร์ใหม่เข้าไป และถือว่ามีฮวงจุ้ยที่ดี เพราะได้ ส.ส.ถึง 120 คน ไม่อยากย้ายไปอยู่แถวหน้าศาล เพราะเดี๋ยวต้องขึ้นศาลบ่อย แต่ที่อาคารยูทาวเวอร์ก็ยังอยู่ โดยจะใช้ในการประชุมใหญ่ๆ

ภารกิจแรกในฐานะหัวหน้าพรรค คือเตรียมเรื่องการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 4 ลำปาง โดยจะตั้งผอ.เลือกตั้งซ่อม และจะมอบหมายให้สมาชิกพรรคลงไปช่วยหาเสียง

ทั้งนี้ได้เตือนเรื่องการแสดงสัญลักษณ์หาเสียง เนื่องจากนายวัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครของพรรค ได้หมายเลข 3 จึงอยากให้ทำสัญลักษณ์ในลักษณะเพื่อความปรองดอง และที่ผ่านมาเราเป็นแชมป์เก่ามาก่อน ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่จะได้แก้ตัวอีกครั้ง และมั่นใจจะเอาชนะใจชาวลำปางได้

สิ่งที่จะคิดและทำให้ได้ คือ เราต้องกลับมาเป็นส.ส.ให้ได้ และจะมีทีมงานทุกด้านที่จะเข้ามาทำงาน โดยประเด็นเศรษฐกิจผมมั่นใจว่าเท่าที่ทาบทามคนมีความรู้ ความสามารถ พร้อมจะเข้ามา แม้บางคนจะไม่อยู่แล้วส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรค เรามีกลไกและมีคนในใจ ส่วนจะเป็นคนนอกพรรคหรือไม่ ไม่พูด เพราะคำพูดเป็นนายคน ถ้าทำไม่ได้เดี๋ยวเสียคน แต่ยืนยันว่าต้องมีเคมีที่ตรงกับผม

เมื่อถามกรณีที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ผู้ก่อตั้งพรรคโอกาสไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนคุยกับนายมิ่งขวัญ เยอะที่สุด เขามีอุดมการณ์ของตัวเอง ก็ต้องเคารพการตัดสินใจ และเราไม่ได้แยกกันเดิน

ด้านนายไผ่ กล่าวว่า จุดยืนทำงานของเราไม่เปลี่ยนแปลง และไม่หนักใจในการทำหน้าที่ตรงนี้ และพร้อมจะประสานงานการเมืองกับพรรคอื่นๆ