ธนาธร หวังปลดล็อกท้องถิ่น ทันสภาชุดนี้ เร่งยื่นรายชื่อประชาชน 8.3 หมื่นชื่อ ต่อประธานสภา ในสัปดาห์หน้า หวังส.ส.-ส.ว. โหวตรับ
วันที่ 4 ก.ค.2565 ที่ตึกอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงปิดแคมเปญ “ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น” ซึ่งรณรงค์เข้าชื่อประชาชน เพื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่นว่า แคมเปญนี้เริ่มรับรายชื่อตั้งแต่ 1 เม.ย.65 จนถึง 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเวลา 90 วัน หรือ มีรายชื่อที่ส่งมาทั้งหมดรวม 83,815 รายชื่อ แสดงให้เห็นว่า มีประชาชนตื่นตัวเรื่องการกระจายอำนาจทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย ตนขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมลงชื่อในครั้งนี้
นายธนาธร กล่าวว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เราจัดเวทีต่างๆ ถึง 30 จังหวัด ยืนยันอีกครั้งว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ ไม่ใช่ของคณะก้าวหน้าเท่านั้น แต่เป็นของทุกคนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศ อยากเห็นการกระจายอำนาจเกิดขึ้น
โดยหลักการสำคัญในข้อเสนอของร่างนี้ มี 5 หลักการคือ 1.ปลดล็อกอำนาจที่จำกัด ให้บริการสาธารณะพื้นที่เป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเงินตรา การมีกองทัพ การต่างประเทศ 2.ปลดล็อกเรื่องความซ้ำซ้อนที่เกิดขึ้นระหว่าง อปท. กับส่วนภูมิภาค รวมถึงส่วนกลาง
3.ปลดล็อกเรื่องงบประมาณ ให้มีการจัดสรรรายได้ใหม่ที่เป็นธรรม โดยส่วนกลางกับท้องถิ่นอยู่ที่ 50 ต่อ 50 เปอร์เซ็นต์ 4.ปลดล็อกการกำกับดูแล ที่ต้องไม่ใช่ส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาคมาบังคับบัญชาท้องถิ่น และ 5.ปลดล็อกเรื่องการเพิ่มอำนาจให้กับประชาชน สามารถเสนอทำประชามติในวาระสำคัญของท้องถิ่น การถอดถอนผู้บริหารท้องถิ่น รวมทั้งการสร้างสภาพลเมืองประชาชนมีอำนาจร่วมตรวจสอบ และการจัดทำงบประมาณแบบมีส่วนร่วม
นายธนาธร กล่าวต่อว่า การกระจายอำนาจ ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ เป็นวาระสำคัญระดับชาติ ถ้าทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะจะทำให้ท้องถิ่นมีอำนาจเต็ม สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้จริง โดยวันที่ 11 ก.ค.นี้ จะนำรายชื่อไปยื่นต่อประธานรัฐสภา หวังว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาชุดนี้
ที่ผ่านมาหลายพรรคหาเสียงเรื่องการกระจายอำนาจ วันนี้โอกาสมาถึงแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่า นโยบายกับการกระทำเป็นเรื่องเดียวกัน นอกจากนี้ ส.ว.หลายคนก็พูดเรื่องนี้ในการประชุม หลายคนก่อนดำรงตำแหน่งก็เคยรณรงค์ผลักดันการกระจายอำนาจ วันนี้โอกาสมาถึงแล้วเช่นกัน
นายธนาธร กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีฝ่ายทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องของคณะก้าวหน้า ไม่ใช่เรื่องของพรรคก้าวไกล แต่เป็นอนาคตของคนไทย อนาคตของลูกหลานเรา ทั้งนี้ อยากฝากถึงทุกคน ให้ติดตามวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ เมื่อร่างเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา อยากให้ช่วยกันแสดงจุดยืน ช่วยกันพูดถึงเรื่องนี้ในที่สาธารณะ เพื่อทำให้ ส.ส.และส.ว.เห็นความสำคัญของเสียงประชาชน