‘ธนกร’ ลั่นอย่าเชื่อเฟกนิวส์ดิสเครดิตรัฐบาล ยัน IMF ชี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดปี 2565 จีดีพีขยายตัวร้อยละ 3 ส่วนปี 2566 ขึ้นสู่ร้อยละ 4.3
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รายงานธนาคารโลก (World Bank) ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2565 ธนาคารโลกได้ประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ แต่ไม่มีการประเมินว่าประเทศไทยอยู่ในช่วงวิกฤตโดยได้ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.9 ต่ำกว่าระดับคาดการณ์เมื่อเดือน ม.ค. 2565 ที่คาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4.1 พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะเติบโตที่ร้อยละ 3.0 ในปี 2566
นายธนกร กล่าวต่อว่า ส่วนคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2565 โตที่ร้อยละ 2.9 จากที่คาดการณ์เมื่อเดือน ม.ค. 2565 เติบโตที่ ร้อยละ 3.9 และคาดการณ์การเติบโตในปี 2566 ที่ร้อยละ 4.3 ซึ่งการปรับลดคาดการณ์ของปี 2565 ดังกล่าว เกิดจากสงครามในยูเครนส่งผลกระทบต่อไทยและประเทศส่วนใหญ่ผ่านผลกระทบต่อการค้าโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ซึ่งกดดันให้อัตราเงินเฟ้อให้สูง
นายธนกร กล่าวอีกว่า รายงานของธนาคารโลกได้คาดการณ์เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Markets and Developing : EMDs) ว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 3.4 ลดลงจากร้อยละ 6.6 เมื่อปีก่อน รวมทั้งได้คาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียงร้อยละ 2.5 ในปีนี้ ลดลงจากระดับร้อยละ 5.7 เมื่อปีก่อนหน้า
นายธนกร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร จะเติบโตที่ร้อยละ 2.5 ในปีนี้ เทียบกับระดับการเติบโตที่ร้อยละ 5.4 ในปีก่อน เช่นเดียวกับเศรษฐกิจจีน คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.3 ในปีนี้ ลดลงจากระดับร้อยละ 8.1 เมื่อปีก่อนหน้า ซึ่งเห็นได้ว่าทุกประเทศได้รับผลกระทบจากความท้าทายทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน
นายธนกร กล่าวอีกว่า การประเมินเศรษฐกิจไทยของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)ที่ได้ประชุมทบทวนภาวะเศรษฐกิจของไทยประจำปี 2565 สรุปได้ว่า เศรษฐกิจไทยได้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้รับการสนับสนุนจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ และแผนการเร่งฉีดวัคซีน คาดการณ์ว่าจีดีพีของประเทศไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 3 ในปี 2565 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ และจะขยายตัวเร่งขึ้นสู่ร้อยละ 4.3 ในปี 2566
นายธนกร กล่าวต่อว่า IMF เห็นด้วยกับการดำเนินนโยบายของรัฐบาลไทย ที่ลดการอุดหนุนราคาพลังงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเห็นว่าการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและ ICT จะเป็นส่วนสำคัญในการได้รับผลประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเศรษฐกิจสีเขียว และดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ และปรับปรุงผลลัพธ์ทางสังคม ซึ่งเป็นการดำเนินนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาตลอด
“ขอประชาชนอย่าเชื่อข่าวปลอมหรือเฟกนิวส์ ยืนยันธนาคารโลกไม่ได้มีการประเมินระบบเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะวิกฤต ถือเป็นปล่อยข่าวเท็จและบิดเบือน เพื่อหวังดิสเครดิต ลดความน่าเชื่อถือรัฐบาล ขอประชาชนให้รับข่าวสารจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ และจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ และฝากเตือนไปถึงผู้ไม่ประสงค์ดี หยุดกระทำการดังกล่าว เพราะท่านกำลังทำลายความเชื่อมั่นประเทศชาติ” นายธนกร กล่าว