ท็อป ณัฐเศรษฐ์ เล่าโมเมนต์ซึ้ง ขอ โอปอล์ แต่งงาน เผยวินาทีคุณแม่ลืมตาตื่นมารับรู้

Home » ท็อป ณัฐเศรษฐ์ เล่าโมเมนต์ซึ้ง ขอ โอปอล์ แต่งงาน เผยวินาทีคุณแม่ลืมตาตื่นมารับรู้


ท็อป ณัฐเศรษฐ์ เล่าโมเมนต์ซึ้ง ขอ โอปอล์ แต่งงาน เผยวินาทีคุณแม่ลืมตาตื่นมารับรู้

ท็อป ณัฐเศรษฐ์ เล่าโมเมนต์ซึ้ง ขอ โอปอล์ แต่งงาน ต่อหน้าคุณแม่แฟนสาวข้างเตียงผู้ป่วย เผยวินาทีคุณแม่ลืมตาตื่นมารับรู้

เรียกว่าเป็นภาพที่ประทับใจใครหลายคน หลังไฮโซหนุ่มและพิธีกรชื่อดัง ท็อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ทำเซอร์ไพรส์ขอ โอปอล์ ปานหทัย แฟนสาวแต่งงานต่อหน้าคุณแม่ของฝ่ายหญิงข้างเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาล ท่ามกลางความซาบซึ้งใจของทุกคนที่ได้เห็นภาพดังกล่าว

ล่าสุด ท็อป และ โอปอล์ เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงโมเมนต์สุดซึ้ง หลังควงคู่มาร่วมงานเปิดตัวซีรีส์วาย “แอบจองรัก”(My Secret Love The series) ที่ ควอเทียร์ แกลเลอรี่ ชั้น M ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ วันก่อน โดย ท็อป กล่าวก่อนว่า “จริงๆ มันเป็นโมเมนต์ที่เศร้านะ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ เลยไม่รู้จะอธิบายยังไงก็เป็นอย่างที่โอปอล์เขาเขียน”

ตั้งใจเซอร์ไพรส์เลยไหมหรือว่าโอปอล์รู้ล่วงหน้า? ท็อป – “โอปอล์ไม่รู้ครับ จริงๆ ที่ใส่เสื้อวอร์มเพราะว่าจะได้เก็บแหวนไว้ในเสื้อ จริงๆ วันนั้นเป็นวันที่สองแล้วที่พกไป คือติดแหวนไปวันแรกหวังว่าจะได้คุยกับคุณแม่ แต่ว่าคุณแม่ไม่ตื่นมาคุยครับ คือช่วงหลังคุณแม่เขาจะตื่นสั้นมาก”

“อีกวันก็เลยพกมาด้วย แล้วก็เริ่มคุยกับคุณหมอว่าคุณแม่ดูไม่ค่อยน่าจะโอเคเท่าไหร่คงต้องเริ่มทำใจ ผมเลยคิดว่ามันไม่มีเวลาแล้วก็เลยต้องทำ ณ ตอนนั้น ถึงแม้คุณแม่จะไม่ได้ตื่นมาพูดด้วย แต่ก็อยากทำตอนที่คุณแม่ยังมีลมหายใจอยู่ อยากจะทำให้แม่ของโอปอล์รับรู้ก่อน”

ตอนที่ขอคุณแม่มีรีแอ๊กต์ยังไงบ้างที่แสดงว่าท่านรับรู้? โอปอล์ – “มีค่ะ คุณแม่ก็ตื่นขึ้นมาแล้วก็รับรู้ทุกคำ ซึ่งก่อนหน้านั้นตอนเช้าคุณแม่หลับตลอดเช้าเลยค่ะ แต่พอพี่ท็อปเริ่มพูดอยู่ดีๆ เขาก็ลืมตาขึ้นมาฟังเราพูด” / ท็อป – “ใช่ คือตอนแรกคุณแม่ยังไม่ลืมตาเลยด้วย แต่ว่าท่านพูดขึ้นมาเราก็ตกใจ เราก็ค่อยๆ พูดแล้วก็อย่างที่ปอล์บอกก็มีลืมตาขึ้นมานิดหนึ่ง หลังจากนั้นก็หลับไป”

เลยกลายเป็นโมเมนต์ที่ทั้งสุขและเศร้าไปในตัว? โอปอล์ – “ใช่ คือร้องไห้เลย ปอล์ร้องไห้กับแม่แล้วอยู่ดีๆ พี่ท็อปก็พูดขึ้นมา มันเป็นอารมณ์ที่สับสนไปหมด เราไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไงตอนนั้น”

ท็อป – “เราไม่รู้จะต้องรู้สึกยังไงมาสักพักหนึ่งแล้วหลังจากวันนั้นจนมาถึงปัจจุบันนี้เวลาที่มีคนมายินดีด้วย เพราะว่าก็เพิ่งทำพิธีของคุณแม่เสร็จเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อย่างที่ว่ามันก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าและน่ายินดี จริงๆ ต้องขอบคุณพี่สาวปอล์ด้วยเพราะตอนแรกไม่ได้มีการเตรียมการก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปอะไรไว้ แต่โชคดีที่พี่สาวยังเก็บภาพโมเมนต์นั้นไว้ มันก็เป็นภาพที่ผมว่าเป็นโมเมนต์ที่ดีครับ”

จริงๆ เราขอกันตั้งแต่เมื่อไหร่? ท็อป –“วันที่ 15 เม.ย. ช่วงนั้นเราอยู่กันที่ไอซียูกันทุกวัน ส่วนคุณแม่เสียวันที่ 17 เม.ย.ครับ” (หลังจากนี้มีแพลนกันหรือยังว่าจะจัดพิธีกันเมื่อไหร่?) โอปอล์ – “น่าจะปีหน้าค่ะ เพราะว่าปีนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องของคุณแม่ไปก่อน ปีหน้าค่อยว่ากัน”

ท็อป – “รอให้ผ่านทุกอย่างไปก่อนประมาณนี้ครับ พูดจริงๆว่ายังไม่กล้าคุยมากเพราะคุยก็รู้สึกผิด มันยังมีอารมณ์หรือเรื่องราวต่างๆ ที่ต้องจัดการอยู่ ปอล์เองก็เหมือนกันยังไม่ได้กลับมาสมบูรณ์แบบ เขายังมีโมเมนต์ที่ยังนึกถึงคุณแม่ในแต่ละวันก็ต้องให้กำลังใจเขาด้วย เลยมองว่าเรื่องเราเป็นเรื่องรองไปละกัน เอาตอนที่ปอล์เขาพร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เอาที่เขาสบายใจที่สุด”

ปอล์มั่นใจท็อปตรงไหนเพราะเขาก็เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว? โอปอล์ – “การกระทำเขาทั้งหมดมันพิสูจน์ทุกอย่าง ที่ผ่านมาคือข่าวเขาก็เยอะมากเลยค่ะ แต่พอเรามาอยู่กับเขามาสัมผัสเขาจริงๆ ซึ่งคนอื่นเขาก็อาจจะได้มองได้ฟังในแบบที่คนเขาอยากจะมองอยากจะฟัง แต่เราเองเราสัมผัสเขาในทุกวัน อยู่ด้วยกันจนมันรู้หมดแล้วทั้งตัวเขา ทั้งที่บ้านเขา ความคิดเขา มันแทบไม่ต้องพิสูจน์อะไรแล้วค่ะ”

ท็อปล่ะทำไมถึงเป็นผู้หญิงคนนี้? ท็อป – “มุมมองความรักของเราเองก็เปลี่ยนไป เติบโตขึ้น ต้องขอบคุณปอล์ในหลายๆ อย่าง เพราะเวลาอยู่กับเขาเรารู้สึกสบายใจที่ได้เป็นตัวเอง รักเราที่เป็นตัวเราจริงๆ อย่างที่บอกเราก็ไม่รู้ว่าเวลาคนที่อยู่กับเราอาจจะไม่รู้จักหรือมองเราแบบที่เราเป็นจริงๆ อาจจะตัดสินไปแล้ว แต่นั่นคืออดีตครับ แล้วพอผมมาอยู่กับเขาผมไม่ได้แคร์เรื่องอะไรเลย แล้วผมก็สามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ที่สุด เลยรู้สึกว่าอยู่กับเขาแล้วเราสบายใจ”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ