เจอตัวแล้ว เด็กหญิง อึใส่ร้าน-ขโมยรองเท้าแตะ ร้านในตลาดนกฮูก จ.นนทบุรี ปล่อยโฮขอโอกาสกลับตัว รับปากจะเลิกพฤติกรรมแบบนี้ เผยปมก่อเหตุ
จากกรณี นายจิรภัทร ตนเตือนจิต อายุ 49 ปี เจ้าของร้านปากกาแฟนซี ลื่นหัวแตก ซึ่งเปิดร้านอยู่ภายในตลาดนกฮูก ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ถูกสาวเข้ามาลักรองเท้าแตะ 1 คู่ พร้อมกับอุจจาระใส่พื้นร้านก่อนจะหลบหนีไป จนทำให้นายจิรภัทรถึงกับเดือดดาลประกาศตามหาตัวขโมยสาวรายนี้ให้มารับผิดชอบกับการกระทำ ก่อนที่จะปล่อยคลิปแฉพฤติกรรม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : เจ้าของร้านปรี๊ดแตก ตามล่าตัวสาว อึใส่ร้าน ลั่นมารับผิดชอบ ก่อนลงคลิปเผยตัว
ล่าสุดวันที่ 29 ก.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากนายจิรภัทร ว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทางตลาดนกฮูก สามารถควบคุมตัวขโมยสาวที่เข้ามาก่อเหตุขโมยรองเท้าแตะและถ่ายอุจจาระใส่ร้านได้แล้ว โดยพบตัวอยู่ที่ด้านหลังตลาดพร้อมกับกระเป๋าสะพาย 1 ใบ จึงเชิญตัวให้มาพบกับนายจิรภัทรที่หน้าร้าน โดยภายในกระเป๋าสะพายพบเครื่องสำอางประเภทต่าง ๆ จำนวนมาก
จากการสอบถามสาวรายนี้ซึ่งจำนนต่อหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพขณะก่อเหตุเข้าไปขโมยรองเท้าแตะที่ร้านของ นายณัตพงษ์ ศิริเมฆ ได้อย่างชัดเจน ทำให้สาวผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง พร้อมกับยกมือขอโทษนายจิรภัทร
โดยสาวผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนมีอายุ 14 ปี และเพิ่งจะเข้ามาก่อเหตุขโมยรองเท้าที่ร้านตลาดนกฮูกเป็นครั้งแรก โดยตนอาศัยอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งต่อมาเกิดปัญหาทางครอบครัวกับพ่อแม่ที่แยกทางกันอยู่ จึงนั่งรถประจำทางจากพระนครศรีอยุธยามาเที่ยวที่ตลาดนกฮูก เพราะได้นัดหมายกับเพื่อนชายคนหนึ่งที่เพิ่งเจอกันผ่านเฟซบุ๊กเพื่อจะไปดื่มน้ำต้มใบกระท่อมกัน
ผู้ก่อเหตุ กล่าวต่อว่า กระทั่งวันเกิดเหตุเพื่อนชายที่นัดไว้ไม่มาตามนัด ตนนั่งรออยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ตอนเช้าจึงตัดสินใจเข้าไปเดินเล่นในตลาด เมื่อเห็นว่าปลอดคนตนจึงเดินสำรวจตามร้านที่ปิดอยู่ จนกระทั่งไปเจอร้านขายรองเท้าแตะ ซึ่งตนอยากได้แทนคู่เก่าอยู่พอดี จึงตัดสินใจย่องเข้าไปรื้อค้นเอารองเท้าแตะไป 1 คู่
ผู้ก่อเหตุ กล่าวอีกว่า และเมื่อมาถึงร้านขายปากกา ตนเกิดปวดท้องหนักกะทันหัน แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี และเห็นว่าเป็นช่วงปลอดคนด้วย จึงตัดสินใจอุจจาระไว้ที่พื้นร้านแล้วรื้อค้นไปเจอรองเท้าแตะในร้านขายปากกาอีกคู่ จึงสลับเปลี่ยนกับรองเท้าแตะที่ขโมยมาจากร้านขายรองเท้าอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะหลบหนีออกจากตลาดและไปขึ้นรถตู้กลับบ้านที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยตนไม่รู้มาก่อนว่าจะตกเป็นข่าวมาแล้ว วันนี้จึงกลับมาเดินเล่นที่ตลาดอีกครั้งเพราะมีนัดกับเพื่อนชาย ตนต้องขอโทษกับเจ้าของร้านทั้งสองคนด้วยที่ทำสิ่งไม่สมควรลงไป
ด้าน นายจิรภัทร กล่าวว่า จากภาพวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายเอาไว้ได้ ตนนึกว่าจะเป็นคนร้ายอายุน่าจะประมาณ 25 ปีขึ้นไป แต่พอรู้อายุจริงว่าขโมยคนนี้ยังเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 14 ปีเองแล้วยิ่งครอบครัวแตกแยกกันอีก ตนจึงรู้สึกสงสารและไม่ติดใจเอาความเพราะไม่อยากให้ ด.ญ.คนนี้ต้องมีประวัติเสื่อมเสีย เห็นแก่อนาคตของเขา ตนจึงไม่ติดใจเอาความ เพียงแต่อยากให้เขารับปากว่า จะไม่ทำตัวเที่ยวไปลักขโมยของใครแบบนี้อีก และถ้าหากเขากลับตัวกลับใจเพื่อจะหางานสุจริตทำ ตนก็ยินดีจะช่วยเหลือหางานให้ทำต่อไป
ขณะที่ นายณัตพงษ์ เจ้าของร้านขายรองเท้าซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ที่ผ่านมาบรรดาร้านค้าภายในตลาดกำลังประสบปัญหาถูกลักขโมยทั้งสินค้าทั้งเงินมาแล้วหลายครั้ง กระทั่งล่าสุดกล้องวงจรปิดที่ร้านตนสามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุเอาไว้ได้ แต่พอทราบอายุผู้ก่อเหตุเป็นเพียงเด็กหญิงวัย 14 ปีเอง ตนก็ไม่อยากเอาความแจ้งดำเนินคดีให้เด็กหญิงคนนี้เสียประวัติเช่นกัน
นายณัตพงษ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งต้องได้ขอทำภาคทัณฑ์กับเด็กหญิงรายนี้เอาไว้ว่า จะไม่กลับมามั่วสุมที่ตลาดแห่งนี้เพื่อความสบายใจของพ่อค้าแม่ค้าทุกคน ส่วนรองเท้าแตะราคา 390 บาทที่เด็กหญิงคนนี้ขโมยไปจากร้านตน ตนก็ขอยกให้ไป และหวังว่าเขาจะกลับเนื้อกลับตัวหางานทำ ไม่เวียนวนกลับมาทำพฤติกรรมแบบนี้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่เจ้าของร้านทั้งสองรายยกโทษไม่ติดใจเอาความกับเด็กหญิงรายนี้แล้ว เด็กหญิงปล่อยโฮร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจและยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมสัญญาว่าจะไม่กลับมาที่ตลาดแห่งนี้อีก รวมทั้งจะเลิกพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย หลังจากที่พยายามอ้อนวอนขอโอกาสจากเจ้าของร้านขายรองเท้าเพราะกลัวถูกจับตัวดำเนินคดี