เกือบสองปีแล้วที่เราต้องใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับโรคระบาด ที่ยังไม่มีทีท่าว่าสิ้นสุดลงเร็ว ๆ นี้ เรื่องหนึ่งในชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากการพยายามควบคุมโรคก็คือ การจำกัดการเดินทางและการท่องเที่ยว นั่นหมายความว่า เราไม่สามารถจะเดินทางไปไหนมาไหนได้ตามอำเภอใจแบบเมื่อก่อน แบบคิดว่าจะไปมีเงินก็ไปได้เลย แต่จะไปก็ต้องวางแผนให้ดี เงื่อนไขและข้อจำกัดต่าง ๆ จะทำให้แผนที่วางไว้พังไหม นี่ก็ไม่มีใครตอบได้เหมือนกัน
เมื่อโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนักไปทั่วโลก เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวมหาศาล เพราะผู้คนต้องหยุดการเดินทางท่องเที่ยวลงชั่วคราว และกักตัวอยู่บ้านกันนานนับ (หลาย) เดือน หลายคนรอแล้วรอเล่า โหยหาตั้งตารอที่จะไปเที่ยว หลายคนเริ่มเปิดโซเชียลมีเดียโดยมีเป้าหมายเพื่อหารีวิว เริ่มเสิร์ชข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่าที่ไหนเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้วบ้าง แต่ข้อจำกัดไม่ได้มีแค่นั้น ถ้าต้นทางปิดเมือง เราก็ออกเดินทางกันไม่ได้อยู่ดี ถ้าเมื่อไรที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เราก็พร้อมที่จะเก็บกระเป๋าออกเดินทางกันอีกครั้ง พร้อมไปทันทีด้วย (วางแผนมานานแล้ว)
Tonkit360 ได้ลองรวบรวมสถานที่หลัก ๆ ที่เราโหยหาตั้งตารอกันเหลือเกินในช่วงที่ผ่านมา เราอยากจะไปเที่ยวไหนกันบ้าง แต่เอาเข้าจริง สถานที่เหล่านี้ก็อาจจะเป็นเพียงคำแนะนำที่หลายคนไม่ได้สนใจ เพราะเวลานี้ ขอแค่ไปไหนก็ได้ที่ไกลจากหน้าบ้านและพื้นที่สี่เหลี่ยมมีกำแพงกั้นก็พอ แค่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตา พบเจออะไรภายนอกที่มันจรรโลงใจก็เหมือนว่าได้พักผ่อนแล้ว ตอนนี้ไปไหนก็ได้ ขอแค่ได้ไปก็พอ!!!
ต่างประเทศ
คนไทยจำนวนหนึ่งมีเป้าหมายจะไปเที่ยวต่างประเทศเมื่อสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายลง เพราะปกติหลาย ๆ คนจะมีแผนเที่ยวต่างประเทศประจำปีอยู่แล้ว ในช่วงเทศกาลหยุดยาวอย่างสงกรานต์และปีใหม่ แต่พอมาคำนวณดูดี ๆ นี่ก็เกือบ 2 ปีแล้วที่เราไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้อย่างอิสระ ถึงดันทุรังจะไปก็มีข้อจำกัดมากมาย ทั้งเรื่องว่ารัฐอนุญาตให้เดินทางไหม ประเทศที่จะไปเสี่ยงแค่ไหนไปแล้วเขาจะรับไหม ฉีดวัคซีนแล้วกี่เข็ม ฉีดของอะไร ไปประเทศไหนได้บ้าง ถ้าต้องกักตัวต้องใช้วันลากี่วัน ฯลฯ ก็เลยจำเป็นต้องรอวนไป แบบที่ไม่รู้ว่าต้องรอนานแค่ไหน
เวลานี้คนที่มีจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวเป็นต่างประเทศ เลยทำได้ทำแค่เปิดดูรูปจากทริปเก่า ๆ เปิดเว็บไซต์ เปิดโซเชียลมีเดีย อ่านรีวิวเที่ยวเก่า ๆ ของคนอื่นรอไปพลาง ๆ แต่ถ้าพยายามจะคิดในแง่ดีก็คือ มีเวลาเก็บเงินเที่ยวนานขึ้นและไม่ต้องกดดันมาก (เพราะจะได้ไปเมื่อไรก็ไม่รู้) แบบว่าถ้าเปิดให้เดินทางกันอย่างอิสระเมื่อไรก็พร้อมพุ่งตัวออกนอกประเทศทันทีเลย
สำหรับจุดหมายปลายทางยอดฮิตของคนไทยนั้น จริง ๆ แล้วก็มีอยู่ไม่กี่ที่ที่คนไทยนิยมไป ส่วนมากก็จะอยู่ในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน ถ้าไปไกลกว่าเอเชีย ก็มีปลายทางในตำนานไม่กี่ที่ที่เป็นที่นิยม เช่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แต่ถ้าอยากตามเทรนด์ แนะนำให้เก็บเงินไปฝรั่งเศสในปี 2024 ไปดูมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่นั่นกัน!
ทะเล
“ร่างกายต้องการทะเล” ใช่เลย เพราะร่างกายไม่ได้ปะทะน้ำทะเลมานานแล้ว ถึงแม้ว่าทะเลจะไม่ได้หาไปยาก ในประเทศทั้งภาคตะวันออกและภาคใต้ มีทะเลสวย ๆ เยอะแยะ แต่สถานการณ์มันไม่เอื้อให้รู้สึกสนุกได้จริง ๆ ยิ่งช่วงที่มีการล็อกดาวน์ ทะเลใกล้ ๆ กรุงเทพฯ ยังไปไม่ได้ด้วยซ้ำ (อย่าว่าแต่ทะเล ไปเดินห้างยังยาก) ฉะนั้น ถ้าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ทะเลก็จะเป็นที่เที่ยวที่คนอยากไปมากอีกที่หนึ่งแบบเดาไม่ยากเลย ไปเล่นน้ำ ไปสูดกลิ่นเกลือจากทะเล ไปนั่งโง่ ๆ ริมทะเล กินซีฟู้ด ณ จุดนี้ไม่มีใครสนใจอะไรมากแล้ว ขอแค่ได้ไปก็พอ
ทะเลที่คนไทยนิยมไป ส่วนใหญ่ก็เป็นทะเลชื่อดังที่เรารู้จักกัน ถ้าอยู่กรุงเทพฯ มีเงื่อนไขว่าไปเช้าเย็นกลับหรือค้างคืนเดียว ทะเลใกล้ ๆ กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกก็คงหนีไม่พ้นพัทยา ชลบุรี ระยอง มาอีกฝั่งก็ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี เกาะสมุย ภูเก็ต พังงา กระบี่ เทือก ๆ นี้ที่คนนิยมไป
เดินป่า/ขึ้นเขา
การไปเดินป่าหรือขึ้นเขา ถือเป็นจุดหมายปลายทางของคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการความสงบและได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างเต็มที่ การขึ้นที่สูงหรือเดินทางไกลเป็นรูปแบบในการเยียวยาจิตใจของใครหลาย ๆ คน เพราะช่วงที่สถานการณ์โรคระบาดในประเทศยังทรง ๆ ทรุด ๆ แบบนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสร้างความเครียดและความวุ่นวายให้กับเราท่านกันถ้วนหน้า การเข้าป่า ขึ้นเขา งดติดต่อผู้คน งดรับรู้ข่าวสารเครียด ๆ สักระยะ ช่วยได้เยอะทีเดียว
ภูเขาที่มีชื่อเสียงมีกระจายอยู่ทั่วทุกภาคในประเทศไทย สามารถเลือกจิ้มเอาได้เลยว่าอยากจะไปที่ไหน อยากเข้าอุทยานแห่งชาติ อยากไปสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ เพื่อเช็กอิน อยากขึ้นดอยชมทะเลหมอกก็เลือกภูเขาทางภาคเหนือ อยากได้อีกฟีลก็ไปแถวอีสาน ถ้าอยากปีนเขาเข้าถ้ำด้วย ดำน้ำดูหินงอกหินย้อยก็เชิญที่ภาคใต้ หรือจะไปตั้งแคมป์ ปั่นจักรยานเสือภูเขา ส่องสัตว์ ก็น่าสนใจทั้งนั้น
น้ำตก
เพราะทะเลมีคลื่น ในขณะที่น้ำตกน้ำจะนิ่งกว่า คนที่ไม่ชอบคลื่น ไม่ชอบน้ำทะเลเค็ม ๆ จึงตั้งใจว่าจะเลือกไปน้ำตกมากกว่าทะเล ที่สำคัญ การไปเที่ยวน้ำตกดูเหมือนจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ ป่าไม้สีเขียวมากกว่าด้วย ถึงช่วงฤดูฝนน้ำตกจะดูอันตรายไปหน่อย ก็รอให้ฟ้าฝนเป็นใจสักหน่อยก็โอเคแล้ว พาตัวเองไปนอนแช่น้ำเย็น ๆ ทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์สนุก ๆ ล่องแก่ง ตั้งแคมป์ ก็น่าจะชาร์จพลังได้เต็มหลอดแล้ว
น้ำตกก็เป็นที่เที่ยวที่หาเที่ยวได้ทั่วไปในประเทศ มีที่ดัง ๆ ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไรก็มีให้เลือกเยอะ อยู่ที่ว่าจะเลือกเดินทางไปทางไหน จะขึ้นเหนือ ไปอีสาน ล่องใต้ แวะฝั่งตะวันตก ที่เด่น ๆ ก็อย่างเช่น น้ำตกแม่ยะ น้ำตกวชิรธาร จ.เชียงใหม่ น้ำตกสาริกา น้ำตกเหวนรก น้ำตกวังตะไคร้ จ.นครนายก น้ำตกเจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี น้ำตกขุนพอง จ.เลย น้ำตกทีลอซู จ.ตาก น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น น้ำตกไทรโยคใหญ่ น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี น้ำตกพลิ้ว น้ำตกเขาสอยดาว จ.จันทบุรี น้ำตกเขาชะเมา จ.ระยอง น้ำตกดาดฟ้า จ.สุราษฎร์ธานี น้ำตกร้อนคลองท่อม จ.กระบี่ เป็นต้น
ห้างสรรพสินค้า
บอกตรง ๆ ว่า ณ จุดนี้ หลายคนล้มเลิกความคิดที่จะไปเที่ยวไหนไกล ๆ แล้วล่ะ ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง บางคนกลัวติดโรค บางคนตกงาน ขาดรายได้ ไม่มีเงินจะไปไหนไกล ๆ บางคนประเมินสถานการณ์ทุกวันจนไม่อยากอกหักซ้ำซ้อน วางแผนเที่ยวเก้อ และบางคนก็ไม่ใช่คนชอบเที่ยวไกล ไม่ชอบผจญภัยให้ลำบาก แต่หลงใหลการช้อปปิ้งและเดินห้องแอร์ พอห้างสรรพสินค้าเปิด คนกลุ่มนี้ก็ตื่นเต้นแล้ว อย่างน้อยก็ได้ออกจากบ้านบ้าง ฉะนั้น ที่สำคัญ ถึงห้างจะเปิดก็ไม่รู้ว่าจะเปิดได้กี่วัน จะถูกสั่งปิดอีกเมื่อไรก็ไม่มีใครรู้ เดินห้างให้ได้ก่อนละกันนาทีนี้
