ทีมนายกฯ ตั้ง 3 อนุกรรมการแก้ “หวยเกินราคา” จัดตำรวจ-ทหาร ลุยจับคนขายแพง แก้กฎหมายเพิ่มบทลงโทษ พร้อมตั้งทีมเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบทั่วประเทศ
สืบเนื่องจากคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 8/2565 ลงวันที่ 12 มกราคม 2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคา
ที่เกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เป็นประธานคณะกรรมการนั้น
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 31 ม.ค. 2565 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ กล่าวภายหลังประชุมนัดแรกว่า นายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน การแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ จึงเป็นไปเพื่อตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการเสนอขายสลากเกินราคา การหามาตรการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากเกินราคา และรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรคต่อนายกรัฐมนตรี
สำหรับวาระที่นำมาพิจารณาในวันนี้ มีเรื่องของระบบการจำหน่ายสลากในปัจจุบัน รวมถึงปัญหาและสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสลากเกินราคา โดยเบื้องต้นทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดย พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้รายงานที่ประชุมถึงรายละเอียดของ พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นายอนุชา กล่าวอีกว่า โดยมีการแก้ไขให้ทันสมัยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดสรรเงินรายได้จากการจำหน่ายสลาก การรับฟังเสียงประชาชนก่อนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงบทลงโทษผู้จำหน่ายสลากเกินราคา ซึ่งเพิ่มโทษผู้จำหน่ายสลากเกินราคาจากเดิมไม่เกิน 2,000 บาท เป็นไม่เกิน 10,000 บาท และมีการเพิ่มบทลงโทษผู้จำหน่ายสลากในสถานศึกษา และจำหน่ายให้กับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เป็นต้น
นายอนุชา กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่ากฎหมายของสำนักงานสลากฯ มีบทบาทสำคัญในการพิจารณาวางมาตรการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าบางประเด็นไม่ได้มีการกำหนดไว้ กอาจจะต้องมีการพิจารณาทบทวน เพื่อการแก้ไขปัญหาในระยะยาว
ในส่วนของการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมานั้น สำนักงานสลากฯ มีการดำเนินการหลายมาตรการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2558 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเพิ่มส่วนลดให้กับตัวแทนจำหน่าย การจัดสรรให้ตัวแทนจำหน่ายทุกราย รายละ 5 เล่มเท่ากัน ทั่วประเทศ ตลอดจนยกเลิกการจัดสรรสลากแบบนิติบุคคลทั้งหมด
คงเหลือแต่มูลนิธิ สมาคม องค์กรคนพิการ รวมถึงการปรับโครงสร้างรางวัลด้วยการเพิ่มเลขหน้า 3 ตัว ประกอบกับเพิ่มความเข้มข้นในการสนธิกำลังทหารและตำรวจ ในการกวดขัน ควบคุม ตรวจสอบและจับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคา และการเปิดให้ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ที่ทำการซื้อสลากผ่านระบบของธนาคารกรุงไทย ซึ่งมาตรการเหล่านี้ยังคงดำเนินการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
นายอนุชา กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคานั้น จากการที่นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้แทนปลัดกระทรวงการคลัง แจ้งต่อที่ประชุมว่า ปัญหาสลากเกินราคาเกิดจากอาชีพสลากในปัจจุบันเป็นอาชีพเสรี ไม่มีการควบคุมตามกฎหมาย คนที่มีเงินทุนก็สามารถซื้อสลากไปขายได้ อีกทั้งยังมีการเกิดขึ้นมากมายของแพลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชน ที่มีการไปกว้านซื้อสลากมาเพื่อจำหน่ายในราคาแพง
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ปีที่ผ่านมามีตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อจองล่วงหน้านำสลากไปขายต่อบนแพลตฟอร์มออนไลน์เอกชน ซึ่งสำนักงานตรวจพบและยกเลิกสัญญาและสิทธิลงทะเบียนไปแล้วกว่าหนึ่งหมื่นราย ล่าสุดคณะกรรมการสลากฯ ได้เห็นชอบให้สำนักงานเตรียมการทำแพลตฟอร์มของสำนักงานฯ ขึ้นเอง ในราคา 80 บาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยแก้ปัญหาในส่วนของการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้
นายอนุชา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีมาตรการที่นำร่องแล้วประสบความสำเร็จ คือโครงการสลาก 80 บาททั่วประเทศ ที่ในระยะเวลาอันใกล้จะมีทั้งหมด 1,000 จุด ทั่วประเทศ ตนเห็นว่าจากมาตรการต่างๆ เหล่านี้ คาดว่าจะสามารถบรรเทาความรุนแรงของปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาลงได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายอนุชา กล่าวต่อว่า ตนได้ฝากการบ้านให้สำนักงานฯ พิจารณาให้รอบคอบเรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดกรองผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อจองฯ ล่วงหน้าให้รอบคอบรัดกุม และเน้นย้ำวิธีปฏิบัติของผู้ขายให้เข้มข้นขึ้น เพื่อที่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ลงทะเบียนซื้อจองล่วงหน้าฯ จะได้ปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
“วันนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพิ่มอีก 3 คณะ เพื่อช่วยกลั่นกรอง ได้แก่ คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงและจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในราคาเกินกว่าที่กำหนด และคณะอนุกรรมกรสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์” นายอนุชา กล่าว
ด้านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องผู้ที่ได้รับการจัดสรรสลากในส่วนของสมาคม องค์กร มูลนิธิคนพิการต่างๆ ว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานสลากฯ ดำเนินการตรวจสอบสมาชิกของหน่วยงานต่างๆ ด้วยว่า แต่ละหน่วยงาน ได้รับสลากจำนวนเท่าใด วัตถุประสงค์รวมถึงการบริหารจัดการสลากของแต่ละหน่วยงานทำอย่างไร เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ ในส่วนของสัญญาการรับสลากไปจำหน่ายที่สมาคม องค์กร ทำกับสำนักงานสลากฯ นั้น จะต้องเพิ่มสภาพบังคับให้เด็ดขาด รวมถึงแสวงหาสภาพบังคับทางแพ่งที่เคร่งครัดขึ้น
สำหรับรายชื่อผู้ที่ซื้อจองล่วงหน้าฯ ที่ผ่านมา รวมถึงที่จะทำการคัดเลือกนั้น นายเสกสกล กล่าวว่า ตนได้กำชับให้สำนักงานฯ ตรวจสอบให้มีความรัดกุม รวมถึงต้องตรวจสอบว่ามีขบวนการที่แสวงหาผลประโยชน์จากโครงการลงทะเบียนซื้อจองล่วงหน้าด้วยหรือไม่ เพื่อให้ความพยายามในการคัดกรองผู้ขายจริง รวมถึงมาตรการต่างๆ เป็นไปอย่างโปร่งใส ส่วนกรณีคำร้องของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนนั้น
นายเสกสกล กล่าวอีกว่า เบื้องต้นตนเห็นว่าต้องเชิญผู้ที่ยื่นคำร้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบในการจัดตั้งทีมเฉพาะกิจในการลงพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบการจำหน่ายสลาก รวมถึงผู้ที่มีพฤติกรรมเป็นนายทุนนำสลากไปรวมชุด ทั้งนี้ เพื่อให้มาตรการมีความครอบคลุม รอบคอบและคำนึงถึงประโยชน์ของทุกฝ่ายก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป