ข่าวค่อนข้างดีสำหรับคนที่อาจเบื่อปัญหาจราจร หรือไม่ค่อยแน่ใจเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน เพราะบริษัทสตาร์ทอัพของญี่ปุ่น เยอรมนี และนครอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์กำลังเร่งพัฒนาพาหนะทางเลือกใหม่สำหรับมนุษย์ที่ไม่อยากติดดิน
โดยบริษัทสตาร์ทอัพในญี่ปุ่นแห่งหนึ่งชื่อ A.L.I. Technologies ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับโดรนและด้วยความสนับสนุนจากบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของญี่ปุ่นคือ Mitsubishi Electric และ Kyocera ได้พัฒนายานเหินที่มีรูปร่างคล้ายพาหนะซึ่งลอยตัวในอากาศในภาพยนตร์ชุด Star Wars ขึ้นและตั้งชื่อว่า “XTurismo Limited Edition”
Japanese startup A.L.I. Technologies’ “XTurismo Limited Edition” hoverbike at its demonstration at Fuji Speedway
โดยยานเหินสีดำสลับแดงที่มีตัวถังคล้ายจักรยานยนต์และมีใบพัดยื่นออกมาทั้งสี่ด้านขนานกับพื้นดินเพื่อทำหน้าที่เป็นฐานเวลาที่จักรยานเหินดังกล่าวหย่อนตัวลงจากอากาศสู่พื้นนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แบบเชื้อเพลิงสันดาปพร้อมทั้งมีมอเตอร์ที่ทำงานด้วยแบตเตอรี่อีกสี่ตัวและสามารถลอยตัวเหนือพื้นดินในระดับความสูงได้หลายเมตรนานถึง 40 นาทีและเคลื่อนตัวด้วยความเร็วถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วย
อย่างไรก็ตามทางบริษัท A.L.I. Technologies ยอมรับว่าขณะนี้ทางบริษัทยังไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้ใช้จักรยานเหินสำหรับการขนส่งผู้คนเหนือท้องถนนในญี่ปุ่นได้ และการใช้ในระยะสั้นคงถูกจำกัดอยู่เฉพาะในบางพื้นที่ เช่น ใช้โดยทีมกู้ภัยหรือเพื่อเข้าถึงพื้นที่ทุรกันดารซึ่งยากต่อการเข้าถึงทางถนน เป็นต้น
รอยเตอร์รายงานว่ายานเหินรุ่นแรกซึ่งเพิ่งออกจำหน่ายเมื่อต้นสัปดาห์นี้มีราคาตกคันละ 680,000 ดอลลาร์หรือกว่า 22 ล้านบาทไทย
อีกด้านหนึ่ง นักเดินทางที่จะไปยังกรุงโรมตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไปอาจมีทางเลือกว่าจะเดินทางเข้าเมืองโดยรถแท็กซี่ซึ่งอาจใช้เวลาอย่างน้อย 45 นาที หรือจะใช้แท็กซี่ลอยฟ้ารูปร่างคล้ายเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็กซึ่งใช้พลังแบตเตอรี่และมีความจุสองที่นั่งโดยจะช่วยย่นเวลาลงได้เหลือเพียง 15 นาทีเท่านั้น
Rome airport presents sustainable drone-like vehicle prototype
โครงการดังกล่าวซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสนามบิน Fiumicino ของอิตาลีกับบริษัทสตาร์ทอัพชื่อ Volocopter คาดว่าบริการแท็กซี่ลอยฟ้าซึ่งบินขึ้นและลงได้ในแนวตั้งเหมือนเฮลิคอปเตอร์และจะคิดค่าบริการประมาณ 175 ดอลลาร์หรือราว 5,700 บาทไทยต่อเที่ยวนี้จะได้รับความสนใจและจะทำให้ราคาค่าบริการค่อยๆ ลดลง
ข้อดีสำหรับแท็กซี่ลอยฟ้าแบบนี้ก็คือเงียบและไม่สร้างมลภาวะ และขณะนี้กรุงโรมเป็นเมืองใหญ่ในยุโรปเมืองที่สามหลังจากกรุงปารีสและกรุงเบอร์ลินที่มีแผนจะนำบริการแท็กซี่ลอยฟ้าดังกล่าวมาใช้งาน
แต่ถ้าจักรยานเหินหรือแท็กซี่ลอยฟ้าอาจฟังดูน่าหวาดเสียวเกินไป นครอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ก็มีทางเลือกให้สำหรับการสัญจรตามคลองโดยสิ่งที่เรียกว่ายนต์นาวาหรือ “Roboat” เช่นกัน แต่ข้อแตกต่างสำหรับยนต์นาวาในเนเธอร์แลนด์นี้ก็คือพาหนะดังกล่าวซึ่งใช้พลังไฟฟ้าจะบังคับควบคุมตัวเองได้โดยไม่ต้องอาศัยมนุษย์ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อว่า “Roboat” นั่นเอง
Researchers trial autonomous boats on Amsterdam’s waterways
“Roboat” หรือเรือที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองตามเวอร์ชั่นของเนเธอร์แลนด์นี้มีรูปร่างเหมือนเรือทั่วไปและมีขนาดเท่ารถยนต์ขนาดเล็ก แต่ข้อได้เปรียบก็คือยนต์นาวาดังกล่าวมีระบบนำทางแบบ GPS มีกล้องจับภาพระบบเลเซอร์พร้อมกล้องด้านข้างอีกหลายตัวเพื่อช่วยกำหนดตำแหน่งและทิศทางการเคลื่อนไหว
อย่างไรก็ตามขณะนี้ “Roboat” หรือยนต์นาวาดังกล่าวยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เพื่อรับส่งผู้คนได้ ดังนั้นการใช้ในขั้นต้นจึงจำกัดอยู่ที่การลำเลียงสินค้าและขนขยะก่อนเท่านั้น ถึงกระนั้นก็ตามเป็นที่คาดกันว่าโครงการ Roboat ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบัน MIT ของสหรัฐฯ และนครอัมสเตอร์ดัมจะสามารถนำไปขยายผลเพื่อการใช้แบบอเนกประสงค์ได้ เช่น ทำเป็นสะพานชั่วคราว ใช้ต่อเป็นแพหรือเวทีกลางน้ำ หรือเป็นพาหนะเพื่อลำเลียงสินค้านอกเหนือจากการเป็นเรือเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมเมืองตามลำคลองแต่เพียงอย่างเดียว