ถึงตายได้เลย สาวนั่งตักจู๋จี๋อยู่ดีๆ แฟนหนุ่มล้มหมดสติ นอนโคม่าใน รพ. หมอเตือนห้ามจูบแรงๆ ที่ร่างกายส่วนนี้
การจูบ เป็นภาษากายที่ช่วยให้คู่รักแสดงความรู้สึกต่อกันได้ แต่หากจูบผิดวิธีหรือผิดที่ ก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้เช่นกัน ดังเช่นกรณีของคุณอัน (นามสมมุติ) ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่ในไห่หนาน ประเทศจีน อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่เขาต้องเข้ารับการรักษาฉุกเฉินในโรงพยาบาล หลังจากถูกแฟนสาว “จูบที่คอ”
คุณหลิน (นามสมมุติ) แฟนสาวของคุณอัน เล่าว่า ทั้งสองคนมีอายุมากกว่า 20 ปีแล้ว คืนนั้นเธอนั่งบนตักของแฟนเพื่อที่เขาจะได้เป่าผมให้แห้ง ในขณะเดียวกันแฟนก็จูบบางจุดบนใบหน้าของเธอเป็นครั้งคราว ภายใต้บรรยากาศโรแมนติกเธอจึงจูบคอแฟนหนุ่มกลับเช่นกัน โดยจูบเป็นเวลานานและทิ้งรอยแดงไว้มากมาย
สิ่งที่คุณหลินไม่คาดคิดคือ หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที แฟนของเธอเริ่มมีอาการหายใจลำบาก เป็นตะคริว และเป็นลมหมดสติล้มลงกับพื้น โดยปกติแล้วคุณอันจะเป็นคนติดเล่นอยู่เสมอ ดังนั้นในตอนแรกเธอจึงคิดว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่นเท่านั้น แต่เมื่อลองเขย่าเขาให้ตื่นอยู่หลายนาที กลับไม่มีการตอบสนอง เธอก็ตื่นตระหนกและเรียกรถพยาบาลทันที
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล คุณอันก็เริ่มฟื้นคืนสติ แต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นเวลาหลายชั่วโมง เนื่องจากการหายใจล้มเหลว เขาได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ว่าเกิดลิ่มเลือดอุดตันในบริเวณหลอดเลือดแดงคาโรติด (Carotid Artery) ด้านซ้ายที่คอ สิ่งนี้ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงอย่างกะทันหัน หัวใจล้มเหลว และเป็นหมดสติ เมื่อคุณหลินรู้ว่าสาเหตุที่แฟนตกอยู่ในอันตรายเพียงเพราะ “จูบดูดดื่มผิดที่” ก็รู้สึกทั้งเสียใจและเขินอายอย่างยิ่ง
การจูบหรือดูดแรงๆ ที่คอหรือหน้าอก อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
แพทย์จากแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลประชาชนไหโข่ว ประเทศจีน กล่าวว่า การจูบที่ลึกหรือแรง จะทิ้งร่องรอยถูกเรียกว่ารอยจูบ มักปรากฏในบริเวณคอ ต้นขา หรือหน้าอก และมีสีแดงอมชมพูถึงม่วงเข้ม มีลักษณะคล้ายรอยช้ำ แม้สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการแสดงความรักใคร่เพื่อแสดงความรักของคู่รัก แต่ในบางกรณีอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ โดยเฉพาะการจูบ/ดูด/กัด บริเวณที่มีเส้นเลือดสำคัญมากมาย เช่น คอ หรือหน้าอก
ในกรณีของคุณอัน แฟนสาวของเขาใช้แรงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้เกิดรอยช้ำลึกบริเวณหลอดเลือดแดงคาโรติดด้านซ้ายที่คอ มันอยู่ตามขอบของใบหูส่วนล่างไปทางด้านในของใบหน้า ตรงไปจนถึงคอและหน้าอก และมีหน้าที่ในการนำเลือดที่มีออกซิเจนจากหัวใจไปยังสมองและใบหน้า รอยช้ำนี้ทำให้เกิดลิ่มเลือด ทำให้เลือดหยุดนิ่ง เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ และทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
แพทย์ยังกล่าวด้วยว่า รอยจูบจะหายไปเองตามธรรมชาติภายใน 5-12 วัน เช่นเดียวกับรอยฟกช้ำทั่วไป ผิวหนังและหลอดเลือดที่เสียหายจะฟื้นตัวได้เอง ขึ้นอยู่กับสถานะการไหลเวียนโลหิต อย่างไรก็ตาม เตือนว่าหากความเสียหายนั้นร้ายแรง มีความรู้สึกไม่สบายผิดปกติ หรือรอยจูบไม่หายไปเป็นเวลานาน ต้องปรึกษาแพทย์ทันที