โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงยันเรื่องส่วนตัว ร.ท.เมายิง “จ.ส.อ.” ดับคาร้านข้าวต้มกลางดึก อส.ทพ.เจ็บด้วย เผย ทั้ง 2 ฝ่ายไม่เคยรู้จัก ปฎิบัติภารกิจอยู่คนละส่วนงาน ชี้โทษหนักไม่ปกป้องแน่นอน

วันที่ 20 เม.ย.2565 จากกรณี ร.ท.พจน์จรินทร์ วังขุนพรหม ทหาร สังกัด ร.152.พัน 3 ใช้อาวุธปืนยิง จ.ส.อ.ธวัช วงค์พลาย รอง ผบ. ร้อยทพ.4614 เสียชีวิต อส.ทพ.อชัชชานนท์ ลายสิงห์ สังกัดเดียวกันบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในร้านข้าวต้ม น้องฟ้า ถนนจงรักษ์ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลังมีปากเสียงทะเลาะวิวาทโดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

ล่าสุดเรื่องนี้ พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัวแน่นอน โดยมีมูลเหตุเกิดจากการดื่มสุรา ทำให้ขาดสติ ขอยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับความมั่นคงแน่นอน สำหรับผู้ก่อเหตุปฏิบัติภารกิจอยู่ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ปฏิบัติในสายงานอยู่ในค่ายประจำอยู่ในกองพัน ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภาคสนาม

เรื่องนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะว่าไปตามกฎหมายในการดำเนินคดีไป ในส่วนของ กอ.รมน.4 ผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำมาโดยตลอดเรื่องของความความประพฤติ การทำตัวในที่สาธารณะ ตักเตือนกำลังพล ไม่ทำตัวผิดกฎหมาย ห้ามตลอดทุกอย่างทุกกรณี ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย กรณีการออกไปในเวลากลางคืนเรา ไม่สามารถห้ามได้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ก็ต้องระมะดระวัง ในการปฏิบัติตัว เพราะเป็นข้าราชการทหาร ทำให้มีการจับตามองจากสังคม จึงต้องรับผิดชอบตัวเอง

ที่สำคัญสิ่งที่เกิดขึ้นผู้บังคับบัญชา จะไม่ปกป้องแน่นอน และการเป็นข้าราชการทหาร นอกจากบทลงโทษทั่วไปแล้วจะต้องถูกขังคุกโดนตีตรวนแน่นอน เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นทหารกับทหาร ไม่มีชาวบ้านได้รับผลกระทบก็ต้องขึ้นศาลทหาร ที่ค่ายองค์ยุทธิ์บริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขึ้นศาลทหารยังไงก็ต้องโดนตีตรวนแน่นอน ต้องรับโทษมากกว่าปกติทั่วไปอยู่แล้ว

พ.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวต่อว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร.ท.พจน์จรินทร์ 3 กระทง คือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พยายามฆ่าผู้อื่น 3.พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือ ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร แต่ทั้งนี้ไม่มีรายงาน การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ บุคคลที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ ทั้งผู้ก่อเหตุ และผู้รอดชีวิต