วันที่ 7 ส.ค. 2567 จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพ ทหารถูกทำโทษโดยการ สั่งแก้ผ้ายืนตากฝน ที่สังคมต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้ ตามที่ได้มีการนำเสนอไปข้างต้น ล่าสุด “ทางกองทัพบก” ได้ออกมาเคลื่อนไหว หลังจากที่ได้มีการสอบสวนข้อเท็จในช่วงหนึ่ง ตอนนี้ได้ออกหนังสือมา โดยระบุว่า “ทบ. สอบสวนพร้อมลงโทษกำลังพล ต่อเหตุการณ์ลงโทษพลทหารเกินกว่าเหตุที่ฐานนอแล อ.ฝาง จ.เชียงใหม่”

ตามที่ปรากฏข่าวในเพจเฟสบุ๊ค “Survive – สายไหมต้องรอด” เมื่อวันที่ ๓ ส.ค.๖๗ กรณีมีผู้แจ้งว่าพลทหารในสังกัดกองพันทหารม้าที่ ๒๕ กรมทหารม้าที่ ๔ รักษาพระองค์ ถูกลงโทษอย่างไม่เหมาะสมในหน่วยฐานปฏิบัติการบ้านนอแล ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ นั้น กองทัพบกได้สั่งการเร่งด่วนไปยังหน่วยต้นสังกัดให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว

ปัจจุบันกองทัพบกได้รับรายงานผลการสอบสวนแล้ว ดังนี้ เหตุการณ์ที่ปรากฎภาพทหารถูกลงโทษ เป็นเหตุการณ์เมื่อ ๕ มี.ค.๖๗ โดยนายทหารชั้นประทวน ๒ นาย ได้เรียกรวมกำลังพลทหารกองประจำการ และทำการลงโทษทหารเป็นส่วนรวม พร้อมกับให้มีการถอดเสื้อผ้า เนื่องจากพบว่ามีกำลังพลกระทำผิดวินัยทหารโดยมีการลักลอบออกจากฐานปฏิบัติการ และมีปัญหาเรื่องชู้สาวกับประชาชนในพื้นที่

อีกเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ ๑ ส.ค.๖๗ นายทหารชั้นประทวน ๒ นาย (คนเดิม)

ได้มีการเรียกอบรมทหารกองประจำการพร้อมทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดเป็นส่วนรวม ในระหว่างทำการตรวจมีทหารกองประจำการ ๑ นายได้แสดงอาการไม่พอใจ และ ๑ นาย มีอาการปัสสาวะไม่ออก นายทหารชั้นประทวน ๒ นาย ซึ่งเป็นผู้ควบคุม จึงได้ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุกับทหาร ๒ นายดังกล่าว สำหรับผลการตรวจสารเสพติดนั้นกำลังพลทุกนายตรวจไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด

จากการกระทำทั้ง ๒ เหตุการณ์ข้างต้น ถือเป็นการลงโทษกำลังพลเกินกว่าเหตุ ที่ขัดต่อวินัยทหารอย่างชัดเจน และเป็นการละเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ได้มอบหมายให้กำกับดูแลกำลังพลในฐานปฏิบัติการให้เรียบร้อยด้วยความยุติธรรม จากผลการสอบสวนทางหน่วยต้นสังกัดได้พิจารณาลงโทษ กำลังพลนายทหารประทวนทั้ง ๒ นาย ให้ส่งตัวกลับหน่วยที่ตั้งปกติ และจำขังในเรือนจำทหารเป็นเวลา ๔๕ วัน พร้อมทำการงดบำเหน็จ ในส่วนผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ได้แก่ ผู้บังคับกองร้อย และ ผู้บังคับกองพัน ให้กักบริเวณพร้อมฝึกวินัยเป็นเวลา ๑๕ วัน

ทั้งนี้ กองทัพบก ได้ให้ความสำคัญและกำกับดูแลหน่วยทหารในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่นอกจากจะต้องปฏิบัติตามระเบียบวินัยที่เข้มงวดแล้ว ยังต้องใช้ทักษะในการปกครองบังคับบัญชาและดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้เกิดความเรียบร้อย ซึ่งปัจจุบันได้มีสั่งการเน้นย้ำไปยังผู้บังคับบัญชาทุกระดับ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นได้อีก

ที่มา : กองทัพบก