สืบเนื่องจากกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ที่มีกระแสข่าวลือว่า มีเอี่ยวกับเส้นทางการเงินที่พัวพันกับ เว็บพนันออนไลน์ จนเป็นข่าวใหญ่ถึงขนาดตำรวจด้วยกันอย่าง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือ “บิ๊กเต่า” รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง หนึ่งในคณะทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่รับผิดชอบคดีเว็บพนันออนไลน์ของ “มินนี่” ออกมาพูดเป็นนัย ๆ ว่า ไม่ช้าไม่นานนี้จะออกหมายจับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่มีเส้นทางการเงินไปพัวพันเว็บพนันออนไลน์ ในข้อหา “ฟอกเงิน” และ “ร่วมกันสมคบคิดฟอกเงิน”
แม้ว่าจะเป็นข่าวใหญ่ในช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ “บิ๊กโจ๊ก” ก็ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง หลังได้รับหมายเรียกส่งตรงถึงบ้านพัก ย่านซอยวิภาวดี 60 โดยการแถลงผ่านทนาย อีกทั้งยังมั่นใจว่า ตนเองนั้นไม่มีทางเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน และการฟอกเงินอย่างแน่นอน และทุกอย่างต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม
ใบอนุโมทนาบัตร
ล่าสุดวันนี้ (19 มี.ค.) บิ๊กโจ๊ก ก็ได้นำทีมทนายตั้งโต๊ะแถลงชัด เกี่ยวกับ ใบอนุโมทนาบัตร จำนวน 2 แสนบาท ที่บิ๊กโจ๊กนำไปทำบุญ โดยทางทีมทนายระบุว่า ในประเด็นปัญหา ใบอนุโมทนาบัตร “ทอดผ้าพระกฐินพระราชทาน” ประจำปี 2565 ที่วัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ในชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล จำนวน 200,000 บาท ที่มาที่ไปของใบอนุโมทนาบัตรฉบับนี้ มีความเป็นไปเป็นมาโดยสืบเนื่องมาจาก ในวันที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม พันตำรวจโทคริส ในการตรวจสอบหลักฐานครั้งนี้พบใบอนุโมทนาบัตรของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่ใบอนุโมทนาบัตรฉบับนี้ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน แล้วสื่อมวลชนจะเอามาเผยแพร่ได้อย่างไร และภายหลังที่เจ้าหน้าตรวจยึดใบอนุโมทนาบัตรฉบับนี้ ก็ได้เอาออกมาเผยแพร่ และถูกเอาไปโยงบัญชีม้าหรือเว็บพนัน
เมื่อปัญหาดังกล่าวปรากฏขึ้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ไม่นิ่งนอนใจ ได้ทำการสั่งให้ตรวจสอบความเกี่ยวโยงที่ถูกอ้างว่าเงินนี้คือบัญชีม้า และข้อมูลนี้เอาออกมาเผยแพร่ได้อย่างไร เรื่องนี้ทีมทนายคิดว่าไม่ยาก เพราะข้อมูลหลักฐานทุกอย่างอยู่ที่พนักงานสอบสวน มันจะไม่สามารถเผยแพร่ต่อสาธารณะชนได้ ถ้าไม่มีผู้มิหวังดีบางรายส่งให้สื่อมวลชน และบิดเบียนข้อมูล โดยที่ไม่ได้ทราบข้อมูลที่แท้จริง
เมื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งให้ผู้ใกล้ชิดตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่าบัญชีที่มีการโอนเงินจำนวน 200,000 บาทนี้ เป็นบัญชีที่ พันตำรวจโทคริส ถือใช้อยู่ ในส่วนนี้ พันตำรวจโทคริส ให้ข้อมูลว่า การโอนเงินดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 เหตุที่โอนเงินในวันดังกล่าวเป็นเพราะมีผู้ที่มีจิตศรัทธา ชื่อว่า น.ส.หลุยส์ ได้มอบเงินส่วนตัวให้ พันตำรวจโทคริส เพื่อทำบุญทอดกฐินที่ดศาลาปูนวรวิหาร จากนั้น น.ส.หลุยส์ ได้มอบหมายให้เลขาที่ชื่อ จุ๊บแจง ส่งรายชื่อและข้อมูลส่วนตัวของตน ให้กับ พันตำรวจโทคริส ผ่านทางไลน์ เพื่อให้ พันตำรวจโทคริส เอาชื่อ น.ส.หลุยส์ ไปมอบให้กับวัดเพื่อออกใบอนุโมทนาบัตร ในฐานะที่เป็นผู้บริจาคเงินตัวจริง
- ด่วน! ตำรวจออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” มารับทราบข้อกล่าวหา คดีฟอกเงินเว็บพนัน
- สรุป! เส้นเงิน ‘บิ๊กโจ๊ก’ ใช้บัญชีม้า ลากเงินบาปมาต่อแต้มบุญจริงหรือ ?
- บิ๊กโจ๊ก ย้ำ! ไม่กังวล ปม ฟอกเงินโยงเว็บพนัน มั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิด
ในวันดังกล่าว พันตำรวจโทคริส เมื่อได้รับข้อมูลของ น.ส.หลุยส์ แล้วจึงได้ทำการโอนเงินให้กับวัดเพื่อทำบุญและได้ส่งข้อมูลของ น.ส.หลุยส์ ให้วัด ตามที่เลขาแจ้งมากับตนและได้แจ้งจำนวนเงินให้วัดรับทราบ นอกจากนั้น พันตำรวจโทคริส ยังได้ส่งรายการโอนเงินที่ได้โอนเงินผ่านระบบ i banking ไปให้กับพระอาจารย์ที่วัดศาลาปูนวรวิหาร ในสลิปได้ระบุไว้ว่า “ทอดกฐินวัดศาลาปูนวรวิหาร”
จากบัญชีที่ พันตำรวจโทคริส ใช้อยู่ ซึ่งเป็นประเด็นที่เป็นปัญหา จากนั้นในวันเดียวัน คือวันที่ 9 กันยายน 2565 วัดจึงได้ออกใบอนุโมทนาบุญในนามของ น.ส.หลุยส์ ตามเจ้าของเงินจริง
ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับใบอนุโมทนาบัตรของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่อย่างไรและในส่วนของใบอนุโมทนาบัตรของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดไว้ คือ วันที่ 29 ตุลาคม ซึ่งในวันนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ไปทำบุญถึงวัดศาลาปูนด้วยตนเอง
ทางทีมทนายจึงมีความเห็นว่าจะต้องเอาผิดกับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลผิดๆ รวมถึงผู้ที่นำเรื่องนี้ไปโยงประเด็นบัญชีม้า ฉะนั้นแล้ว ใบอนุโมทนาบุญที่เป็นปัญหานี้ ทางทีมทนายตรวจสอบแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าหรือบัญชีผู้อื่นแต่อย่างใด
และหากใครมองว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเอาใบนี้ไปลดหย่อนภาษีเพราะทำเว็บพนัน เรื่องนี้ไม่มีความจำเป็นเลย เพราะ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทำบุญและได้ใบอนุโมทนาบัตรเยอะกว่านี้ เรื่องนี้ต้องขอความเป็นธรรมให้ท่านด้วย