‘ทนายตั้ม’ตัดปัญหา ควักเงินส่วนตัว โอนคืนคนบริจาค ฉะอย่าลำเลิกบุญคุณ ขอคิดให้ดี คิดให้ถี่ถ้วน อย่าเป็นพวกไม่เข้าใจ โอนไวโอนง่าย แล้วมาทวงทีหลัง
หลังจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ประกาศถอนตัวจากการเป็นทนายความให้ลุงพล ในคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีน้องชมพู่ ก่อนทนายตั้มจะเปิดใจครั้งแรกในรายการโหนกระแส เผยสาเหตุมาจากเรื่องความรู้สึกร่วมกันระหว่างตัวเองและลุงพล พร้อมชี้แจงปมดราม่าเงิน 10 ล้านไม่เป็นความจริง ก่อนรายการดังจะให้ลุงพลโฟนอินเข้ามาในรายการและระบุว่า ทนายตั้มต้องหนักแน่นถึงทำคดีนี้ได้ อยากให้ทนายตั้มหนักแน่นให้สมกับที่ทำคดีให้ตัวเอง ตอนนี้ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นถึงถอนตัว และยังไม่ได้หาทนายคนใหม่ ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 30 พ.ย.64 เพจเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ข้อความถึงกรณีนี้ โดยระบุว่า
สำหรับใครที่เคยบริจาคเงินเข้ามูลนิธิทีมงานทนายประชาชนช่วงเดือนม.ค. เพราะเข้าใจผิดว่าเงินก้อนนั้นจะนำมาช่วยลุงพล ทั้งที่ผมชี้แจงแต่แรกว่าคดีนี้ทำฟรี และการบริจาคครั้งนี้คือการทำบุญช่วยเหลือผู้ยากไร้ไม่มีเงินสู้คดีรายอื่น และรู้สึกไม่สบายใจที่ผมถอนตัวจากการเป็นทนาย สามารถส่งหลักฐานเข้าเพจ หรือคอมเมนท์ทิ้งไว้ให้โพสต์นี้ได้เลยนะครับ ถึงผมจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการบริจาคนี้ แต่พวกคุณต้องเข้าใจก่อนว่า การเบิกถอนเงินจากมูลนิธิเป็นเรื่องวุ่นวายมาก #ผมขอตัดปัญหาใช้เงินส่วนตัวโอนคืนทุกบาททุกสตางค์ครับ
ฝากไว้ให้คิดนะครับ ทีหลังจะทำบุญ คิดให้ดี คิดให้ถี่ถ้วน อย่าเป็นพวกไม่เข้าใจ โอนไว โอนง่าย แล้วมาทวงทีหลังนะครับ มันเดือดร้อนคนอื่น ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ผมใช้ในการทำคดีนี้ ที่เป็นยอดเงินหลายเท่าตัวของเงินบริจาค ผมไม่ทวงคืนแม้แต่บาทเดียว เพราะผมคนประเภทคิดจะทำบุญ ต้องใจใหญ่ ไม่มาลำเลิกบุญคุณภายหลังให้อายลูกอายหลานครับ