ทนายกฤษณะ ไม่โกรธแม่ย้อนเวลายังจะทำคดีแตงโม กระทบหนักเมียลาออก-ลูกชวดทุน

Home » ทนายกฤษณะ ไม่โกรธแม่ย้อนเวลายังจะทำคดีแตงโม กระทบหนักเมียลาออก-ลูกชวดทุน


ทนายกฤษณะ ไม่โกรธแม่ย้อนเวลายังจะทำคดีแตงโม กระทบหนักเมียลาออก-ลูกชวดทุน

ลูบหน้าน้องบอกโมช่วยพี่ด้วย! ทนายกฤษณะ ไม่โกรธโดนถอดเป็นสิทธิของแม๊ รับผลกระทบหนักครอบครัว ภรรยาลาออก-ลูกสาวชวดทุน

หลังจากที่มีข่าวคุณแม่ของแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) ได้ถอดถอนทนายกฤษณะ เป็นที่เรียบร้อยแล้วและแต่งตั้ง ทนายเดชา ขึ้นมาแทน ซัดแหลกด้วยเหตุหิวแสง ชอบไปออกรายการ แย่งคุณแม่ตอบคำถามสื่อ ทั้งยังเจอผลกระทบใหญ่หลังโดนถอด พร้อมกับตอบคำถามเทรายการทั้งที่นัดมาร่วมสัมภาษณ์ในรายการแล้ว ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บSHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ครั้งที่แล้วนัดกันแล้วทำไมไม่มา เกิดอะไรขึ้น?
ทนายกฤษณะ : ครั้งที่แล้วตอนแรกสับสนคิวการให้สัมภาษณ์ครับ จริงๆผมได้รับปากไว้แล้ว แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นเลยทำให้ผมเบลอเลยช่วงนั้น ต้องกราบขอโทษด้วยครับ วันนี้มาถึงที่แล้ว ขอโทษด้วยตัวเองอีกครั้งนึงครับ

กับแม่คุณแตงโม?
ทนายกฤษณะ : สถานะตอนนี้ผมไม่ใช่ทนายของคุณแม่แล้วนะครับ ซึ่งคุณแม่ได้สั่งระงับแล้ว จริงๆแล้วใบสั่งแต่งทนายมันจะต้องไปใช้ในศาล มันต้องเป็นใบมอบอำนาจก่อน แต่ด้วยความที่คุณแม่เซ็นใบแต่งให้ผมเลยในวันนั้น ซึ่งมีอำนาจอะไรจัดการได้ แต่จริงๆแล้วมันต้องมีใบมอบอำนาจอีกฉบับนึงคู่กัน แต่ทางคุณแม่กับผมถือว่าแต่งไปแล้วไม่เป็นไร ก็ทำหน้าที่ในฐานะคุณแม่แทน แต่เวลาจะเข้าไปขอเอกสารอะไรกับทางพนักงานสอบสวนหรือว่าจะเข้าไปร่วมประชุมก็แล้วแต่ คุณแม่ก็จะทำมอบอำนาจอีกฉบับนึงให้ไปคู่กันด้วยนะครับ อธิบายให้เข้าใจก่อน ใบแต่งทนายต้องใช้ในศาล ใบมอบอำนาจเรายังขออะไรต่างๆขอหลักฐานได้

ล่าสุดคืนใบมอบอำนาจให้คุณแม่ไปหรือยัง?
ทนายกฤษณะ : พรุ่งนี้ครับ นัดคุณแม่ว่าจะเอาไปคืนที่ที่พักท่าน สถานะตอนนี้สิ้นสุดตั้งแต่คุณแม่ประกาศแล้ว แต่แค่เอกสารผมยังไม่มีเวลาคุย ผมติดว่าความอยู่ก็เลยยังไม่มีเวลาไป เมื่อวานคุณแม่ก็โทรมาคุย

คุณแม่ว่ายังไงบ้าง?
ทนายกฤษณะ : คุณแม่ก็ถามว่าโกรธคุณแม่หรือเปล่า ผมก็บอกว่าไม่ได้โกรธเลยคุณแม่สบายใจได้ ผมก็ยอมรับตามที่ผมบอกออกไปแล้ว ขอให้คุณแม่ไม่ต้องคิดมาเรื่องนี้ ขอให้พักผ่อน คุณแม่ก็ไม่สบายใจ เข้าใจความรู้สึกของคุณแม่ แต่ว่าด้วยสิทธิของท่านเราก็ต้องยอมรับ

คุณแม่ได้มีการเตือนก่อนมั้ย?
ทนายกฤษณะ : ด้วยเซนส์ของทนายเองก็มีก่อนแล้วครับ เห็นสิ่งรอบข้างการโต้ตอบกันก็แปลกๆไป แต่ไม่ได้ถือสาเราก็รู้แล้วแหละ แต่ด้วยความที่เราอยากได้ยินจากปากเองนะครับ พอดีวันนั้นผมเข้าไปเคลียร์งานที่ออฟฟิศทนายเดชาก็โทรเข้ามาบอกว่าให้รีบมาที่สำนักงานด่วนเลยมีอะไรจะคุยด้วย ผมก็ยังไม่ทราบตอนนั้น รีบขับรถออกมาก็เห็นนักข่าวโทรมา ได้ยินว่าพี่กฤษณะโดนปลดจากทนายแล้วหรอ ผมก็เอ๊ะผมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมก็เอะใจแล้วเลยขับมาจอดปั๊มน้ำมันก่อน จอดโทรศัพท์หาคุณแม่ แม่บอกว่าใครบอกว่าคุณแม่ปลดคุณแม่ให้พักก่อนช่วยงานทนายเดชาอยู่ข้างหลังนะครับ คือให้ทำเอกสารในออฟฟิศ

ได้ยินแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
ทนายกฤษณะ : ยังไม่เชื่อ ยังตกใจอยู่ สักพักนึงผมเดินไปเข้าห้องน้ำกลับมาใหม่ โทรไปอีกถามคุณแม่อีกครั้ง แต่รู้แล้วแหละความหมายคืออะไร เลยบอกคุณแม่ว่าคุณแม่ครับผมยอมรับตามที่คุณแม่บอกครับ เดี๋ยวผมจะไปหาทนายเดชา เดี๋ยวจะดำเนินการ แม่ไม่ต้องคิดมาก แม่พักผ่อนไปเลย ผมก็รู้แล้วเลยขับรถไป มีนักข่าวโทรเข้ามาตลอดเลย ผมเองก็สับสนแล้ว เลยไปจอดปั๊มน้ำมันอีกปั๊มนึงก่อนที่จะถึงสำนักงานอาจารย์เดชา ตั้งหลักก่อน ยังช็อคอยู่ เดินเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จริงๆผมจะถึงแล้วแต่ผมบอกนักข่าวผมหลงทางก็หลงทางจริงๆ แต่ว่าถ้าผมเข้าใจผมต้องมีคำพูดอะไรที่ใจเย็นขึ้น ต้องตั้งสติก่อน

ด้วยเหตุอะไรทำไมคุณแม่ถึงปลด คุณแม่บอกทนายชอบไปออกรายการ?
ทนายกฤษณะ : จริงๆจุดประสงค์ผมที่ไปออกรายการด้วยความที่เราเองยังมีสิ่งที่สงสัย ณ ช่วงนั้น เลยอยากจะถ่ายทอดให้ทางบ้างหรือทีมทนายที่เค้าดูอยู่เป็นรุ่นพี่ต่างๆ ว่าผมสงสัยนะ คุณมีอะไรเสนอแนะผมมามั้ย อันนี้มันเป็นกุศโลบายของผมเองในการที่จะออกสื่อ แต่ถามวาผมหิวแสงมั้ย ผมยังไม่เข้าใจคำๆนี้เลย ด้วยความที่เรารู้แต่ภาษากฏหมาย ผมเห็นศัพท์วัยรุ่นไม่ได้ติดตามโซเชียลอะไรมากมาย ก็ไม่เข้าใจ ผมไปออกทีวีด้วยความที่เราไม่เคยอยู่ในวงการนี้ด้วย คำว่าหิวแสงผมไม่เข้าใจจริงๆ

ตอนนี้เข้าใจยัง?
ทนายกฤษณะ : แจ่มแจ้งเลย (หัวเราะ)

คุณแม่บอกคุณทนายชอบแย่งให้สัมภาษณ์สื่อ?
ทนายกฤษณะ : ประเด็นนี้อยากจะบอกว่าด้วยความหวังดีเลยนะครับ ตอนนั้นเห็นคุณแม่ทัวร์ลง ก็ได้ปรึกาาทั้งคุณดายศและเครือญาติ และคุณแม่ในช่วงนั้น คุณแม่ก็บอกว่ายังไงก็ช่วยคุณแม่ตอบคำถามหน่อยในช่วงนั้น ผมเลยแทรกเข้าไป เพราะว่าบางอย่างถ้าคุณแม่ตอบไปผมก็กลัวทัวร์จะลงคุณแม่จะเครียดอีก ผมก็เลยแทรกเข้าไป แต่ในช่วงนั้นผมก็ไม่ทราบว่าคุณแม่คิดยังไง ผมก็ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม ก็ยังแทรก กลัวจะหลุดเหมือนกัน จุดประสงค์ผมไม่ได้คิดทำร้ายแม่หรือจะไปแย่งซีนแม่เลย แต่จริงๆผมเกรงใจนักข่าวด้วยซ้ำไป ด้วยความที่คุณแม่ออกมาแบบนี้ผมก็ต้องน้อมรับในคำติชมท่าน

ทำให้ตำรวจยศใหญ่ๆไม่พอใจ เพราะเพิ่งจบทนายมา 2 ปี?
ทนายกฤษณะ : บางทีคำถามผมกับผู้ใหญ่ ผมอาจจะสงสัยมากไปนิดนึงด้วยความที่เราเป็นทนายอีโก้ก็ต้องมี ถ้าผมไม่เจาะแบบนี้ ถ้าผมไปขึ้นศาลแล้วเนี่ยฝั่งตรงข้ามเค้าก็เก่งอยู่แล้วถ้ามีทนาย ถ้าผมเจาะเล็กๆน้อยๆมันก็ได้แค่ข้อมูลเบื้องต้นผมฟังข่าวก็ได้ถ้าลักษณะนั้น แต่ว่าตรงนี้อาจจะไปล้ำผู้ใหญ่เค้าหรือเปล่าผมก็ไม่ทราบ แต่ว่าด้วยหน้าที่ผม ผมทำตรงไปตรงมา แต่ว่าต้องน้อมคำติชมคุณแม่อีกทีนึงครับ

ทนายเดชามาทำหน้าที่แทน รู้สึกยังไงบ้าง โกรธ น้อยใจบ้างมั้ย?
ทนายกฤษณะ : ตอนแรกผมบอกสื่อทุกท่านแล้วว่ายกให้ทนายเดชาเป็นพ่อคนที่ 2 ซึ่งผมเองติดตามท่านมาตลอดและได้ความรู้จากท่านมา ถามว่าผมเสียใจมั้ยนิสัยผมเป็นคนที่ไม่อาฆาตคน ไม่โกรธคน ผมเป็นคนที่ใจเย็นมาก สังเกตุดูเวลาผมสัมภาษณ์ผมจะไม่ใส่ร้ายใครเลย ผมรู้ทั้งรู้ว่าเค้าทำผมแต่ผมจะนิ่ง เรานิ่งดีกว่าความนิ่วมันจะสยบทุกอย่าง ผมมีแผน 2 ผมอยู่แล้วแต่ผมไม่สามารถที่จะเปิดเผย คำว่า ทนายความ มรรยาททนายความอยู่อย่างนึงก็คือห้ามอวดอ้างสรรพคุณตัวเอง ผมก็ต้องระมัดระวังคำพูดนิดนึง กิริยาผมเลยต้องออกไปในลักษณะอย่างนั้น ถามว่าโกรธมั้ยไม่โกรธ

ทนายเดชามารับงานแทน ได้คุนกันบ้างหรือยัง?
ทนายกฤษณะ : คุยกันทุกวันเลยครับ ทุกเช้าท่านจะโทรมาหาผมตลอด มีอะไรก็จะปรึกษากันว่ามีหลักฐานใหม่อะไรมั้ยที่จะเชื่อมโยงกันได้ ผมเองก็ขออนุญาตท่าน ท่านเดชายังอนุญาตให้ผมอยู่กับท่านเต้ได้เลยแกยินดีเลย คุณแม่เองที่โทรมาเมื่อวานตอนกลางคืนก็ดีใจที่ผมจะได้ค้นหาข้อเท็จจริงอีก ตอนนี้คุณแม่ติดใจเรื่องการตรวจคราบเลือดในเรือ คุณแม่อาจจะได้ข้อมูลมาจากไหนไม่ทราบตรงนี้ คุณแม่บอกว่าให้ผมกับท่านเต้ช่วยค้นหาอีกหน่อย ผมเองก็ได้บอกว่าได้ครับ ผมก็ตอบยังงี้ แต่ว่าวิธีการยังไงอันนี้เป็นทางของผมเองกับ ส.ส เต้ที่ต้องช่วยคุณแม่หาหลักฐานตรงนี้เพิ่มเติม แต่ผลพิสูจน์ทนายเดชาเห็นว่าออกมาแล้วไม่พบคราบเลือดในเรือ คุณแม่ขอความช่วยเหลือผมมาอีกทีนึง ผมเองก็ต้องค้นหา ผมจะแคบเข้ามาแค่ผลตรวจเลือดเรือก็คงจะปรึกษาผู้ใหญ่ที่สูงกว่านี้ ซึ่งผมมีสำรองไว้เรียบร้อยแล้ว อีกอย่างนึงที่ผมยังสงสัยอยู่ คำว่าสงสัยทำให้ผมเป็นเรื่องทุกที ยังหาคำตอบอยู่คือ กล้องหน้ารถของคุณแตงโมที่บันทึกภาพที่ผมส่งมอบ ก่อนหน้านี้ข่าวเคยออกไปแล้ว แต่ว่าพนักงานสอบสวนและพิสูจน์หลักฐานยังไม่ออกไปเอา คุณแม่โทรมาประสานผมให้ไปเป็นตัวแทนแม่รับมอบวัตถุสิ่งนี้หน่อยแล้วส่งให้พิสูจน์หลักฐาน ผมเองก็ส่งมอบเรียบร้อย

ก่อนส่งมอบได้ดูมั้ย?
ทนายกฤษณะ : ผมขอพนักงานเค้าดูแล้ว แต่เค้าบอกว่าดูไม่ได้เค้าขอไว้ก่อน ถ้าผมรู้ก่อนนะอันนี้มันเป็นความผิดของผมเอง ตอนนี้ผลออกมาแล้ว ผมกำลังหาโอกาสไปพบท่านผู้กำกับทางตำรวจให้ความร่วมมือผมเป็นอย่างดี จริงๆสิ่งนี้ท่านบอกใช้เวลานานอีกพอสมควรแต่บังเอิญว่าท่านผู้บัญชาการภาค1 ท่านสั่งเดี๋ยวนั้นเลย วันที่ผมไปนิติเวชให้โทรหาเดี๋ยวนั้นเลยว่าหลักฐานนี้จะได้เมื่อไหร่ ผมติดงานเคลื่อนย้านศพน้องไปที่ธรรมศาสตร์เลยขอเลื่อนท่าน โดนถอดตอนนี้ผมเลยไม่มีอำนาจที่จะเข้าไป ผมกำลังจะประสานกับท่านอีกทีนึงว่าผมขอเข้าไปฟังได้มั้ย

ตั้งแต่เริ่มต้นทำคดีจนถึงวันสิ้นสุดเวลาทั้งหมดเท่าไหร่?
ทนายกฤษณะ : คุณแม่แต่งทนายผมวันที่ 7 มีนาหรือเปล่าผมจำไม่ได้ แต่คุณแม่เซ็นวันที่ทัวร์ลงรายการที่คุณแม่ไปออก พอออกอากาศเสร็จ 6 โมงกว่าๆคุณแม่โทรหาผมให้ไปหาที่ห้างแห่งนึงเซ็นกันตรงนั้นเลย ถ้าจำผิดต้องขออภัย มันเป็นเรื่องปกติของทนายความเรื่องการถอดถอน แต่ว่าอันนี้มันเป็นข่าวใหญ่ ทนายทุกคนเคยโดนหมดบางทีลูกความไม่ชอบ

ได้รับค่าใช้จ่ายจากคุณแม่มาบ้างมั้ย?
ทนายกฤษณะ : คือจริงๆผมเคยบอกคุณแม่ว่าคดีนี้ถ้าคุณแม่จะให้ผม ผมขอทำบุญให้กับน้องโมส่วนนึง ส่วนที่เหลือแล้วแต่คุณแม่จะให้ ช่วงนี้คุณแม่ก็ให้ค่าน้ำมันรถค่าข้าวผมไปก่อน แต่ก็ไม่กล้าขอท่าน เพราะท่านก็มาช่วยในเรื่องของหนี้สิน เมื่อวานนี้คุณแม่ก็โทรมาบอกว่าแม่ให้ค่าที่ทำคดีไม่ต้องคืนคุณแม่ ตอนแรกผมจะหามาคืนคุณแม่ กลัวจะเป็นปัญหาอีก แต่คุณแม่โทรมายืนยันคุณแม่ไม่เอา คุณแม่ให้เป็นค่าว่าความ 35,000 บาท

ถ้าคุณแม่ดูอยู่ มีอะไรจะบอกคุณแม่มั้ย?
ทนายกฤษณะ : ก็ยังเคารพคุณแม่ครับ ทุกอย่างคุณแม่ก็ยังคุยกับผมตลอด คุณแม่ไม่ได้โกรธผม โทรมาถามผม ผมก็บอกว่าไม่เคยโกรธเลย เค้าเหมือนคุณแม่ผมจริงๆ ผมคิดซะว่าคุณแม่ด่าสักพักเดี๋ยวก็หาย ผมยังชื่นใจเลยคุณแม่โทรมาหาผม คุณแม่ถามผมคำแรกว่ายังโกรธแม่มั้ย ผมบอกไม่เคยโกรธเลยคุณแม่ผมไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้แล้วมีแต่จะเดินหน้าหาหลักฐานมาช่วยน้อง

ตอนนี้ไปทำงานกับ ส.ส เต้ ยังตามข่าวน้องอยู่?
ทนายกฤษณะ : ในใบแต่งตั้งให้ผมตามหาพยานหลักฐาน แถลงข้อเท็จจริง ในขอบเขตของการทำงาน

ก่อนสิ้นสุดการว่าความ แนวโน้มเรื่องจะเป็นยังไง?
ทนายกฤษณะ : ผมพยายามอยากจะทำให้มันเป็นเจตนา ถ้าฆาตกรรมมันจะต้องดูให้ลึกมากกว่านี้ นักกฏหมายบางท่านอาจมองเป็นฆาตกรรม แต่ฆาตกรรมเนี่ยมันต้องหาหลักฐานหลายอย่าง ซึ่งถ้าเป็นการไตร่ตรองไว้ก่อนมันจะต้องมีการวางแผน อันนี้มันเหมือนฉุกละหุก แต่ตอนนี้คุณหมอพรทิพย์ท่านก็ยังสงสัยอยู่ว่าบาดแผลที่มันเกิดก่อนเนี่ยเกิดจากอะไร จากการพลิกศพดู วันนั้นผมก็ขัดคำสั่งแม่ จริงๆแล้วผมเองบอกผู้ใหญ่แล้วผมเข้าไม่ได้ แต่คุณหมอเค้าให้ผมไปนั่งฟังได้ ผมไม่กล้าขัดคำสั่งท่านผมเลยเข้าไป ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เห็นว่าไม่ชอบตรงนี้ด้วยคุณแม่ผมเองก็ถือวิสาสะเข้าไป ผมเป็นทนายผมไม่เข้าไปผมมีความรู้สึกว่าแล้วผมจะไปซักเค้ายังไง เพราะผมเป็นโจทย์ร่วมกับอัยการ

สิ้นเดือนนี้ตำรวจจะปิดคดีเป็นอุบัติเหตุ?
ทนายกฤษณะ : ผมคงยังไม่สามารถที่จะพูดได้ เพราะคุณแม่ขอไม่ให้ยุ่งในเรื่องของคดี แต่ตรงนี้ผมขอเป็นสรุปของท่านเดชาแล้วกันครับ

ผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากไม่ได้เป็นทนายให้คุณแม่?
ทนายกฤษณะ : หลังจากที่มีการถอดถอนผมอย่างเป็นทางการแล้ว ผมเดินออกมายังคิดว่าจะไปไหนต่อ ตัวเองก็มีงานที่รับว่าความไว้อยู่ อันดับแรกเลยคือความเชื่อมันของลูกความที่เรารับคดีมาทำก็โทรศัพท์มาสอบถามอยากจะเปลี่ยนใจด้วยซ้ำไป ผมบางส่วนมันกระทบพอสมควร หลังจากนั้นผมก็ได้ทราบข่าวว่าท่าน ส.ส เต้ประประกาศกลางคันผมตกใจเลยว่าท่านแต่งตั้งให้ผมเป็นที่ปรึกษากฎหมายของหัวหน้าพรรคก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่ในช่วงนั้นกลับบ้านไปภรรยากับลูกเห็นข่าว ภรรยาบอกว่าลูกร้องไห้ตลอดเลย แฟนก็บอกว่าทำไมฉันไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย เรื่องที่เค้าขุดคุ้ยผมขึ้นมา จริงๆผมไม่อยากพูดถึงมันแล้ว ด้วยความที่เราเองก็ยอมรับไป ข่าวมันออกมาเหมือนผมเป็นหนี้หลายล้านมันไม่ใช่เลย คือจริงๆหนี้ผมมันแค่หลักแสน ผมไม่ทราบว่าไปทำอะไรให้ใครขุ่นเคืองถึงไปขุดคุ้ยขนาดนั้น ก็อยากจะบอกว่ามันมีผลกระทบกับครอบครัวแฟนผมไปทำงานแทบจะไม่อยากไปเลย ในที่สุดเค้าก็ขอยื่นใบลาออกแต่ว่าทางผู้ใหญ่ก็ท้วงติงไว้ แต่ในการตัดสินใจคือเค้าตัดสินใจลาออกเหมือนเดิม

ลูกสาวสอบชิงทุน?
ทนายกฤษณะ : เค้าเรียนจบโรงเรียนเตรียมอุดม เค้าได้ทุนเรียนฟรีมาตลอดเค้าก็ไม่ได้อายเลย เค้าบอกฐานะบ้านเราไม่ดีทางโรงเรียนก็ให้ทุนมาตลอด ทีนี้เค้าไปสอบทุน ก.พ กับทุนคิง ทุนคิงนี่น้องไม่ได้ แต่น้องมาเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายทุน ก.พ ที่จะไปอังกฤษ น้องก็สัมภาษณ์ เค้าจะเลือกคนเดียว ก็รู้สึกมีความมั่นใจหลังจากสัมภาษณ์ออกมา หนูมั่นใจว่าหนูน่าจะได้ แต่พอมีข่าวออกไปลูกร้องไห้เลย

ลูกเข้าใจว่าเกิดขึ้นจากข่าวของคุณพ่อ?
ทนายกฤษณะ : ลูกเข้าใจอย่างนั้น จริงๆผมว่าน่าจะมีผล ตอนแรกลูกรับไม่ได้เลยปิดประตูร้องไห้ ส่วนแฟนผมด่าผมตลอด ขอหย่าด้วย ผมบอกถ้างั้นอย่าเสพสื่อเลยผมพยายามประคอง เหมือนกับที่เค้าด่าเนี่ยผมมาเข้าใจทีหลังว่าเค้าเป็นห่วงผม ทำไมไม่บอกเค้าตั้งแต่ตอนแรกเค้าจะได้หาทางช่วยได้ ไม่อยากปล่อยให้มันมาถึงขนาดนี้ ด้วยความที่เราผู้ชายผมไม่บอกเค้าเลย เลยเจอปัญหาแบบนี้ขึ้นมา แต่ตอนที่ผมเข้ามาทำคดีนี้คิดว่าต้องเจอใจผมคิดว่าผมเป็นทนายแล้วต้องใช้หนี้เค้า ถ้าผมมีเงินผมจะกลับไปหาเค้าทั้งหมดกระจายทุกคนให้จบ แต่ว่ามาเข้าคดีนี้แล้วผมเชื่อเลยว่าต้องมีมา ก็มาจริงๆ

มีลูกหนี้มาทวงเงิน มีลูกหนี้มาให้กำลังใจด้วย?
ทนายกฤษณะ : ตอนนี้ลูกหนี้ทุกคนที่ออกรายการ โทรมาให้กำลังใจผมหมดทุกคนเลย

ให้กำลังใจลูกยังไงพลาดทุน?
ทนายกฤษณะ : ลูกเข้ามากอด เค้าดูโซเชียลฟีดแบ็กกลับมามันดีขึ้น ลูกก็เลยบอกว่าปาป๋าสู้ๆ ผมชอบคำนี้ของลูกมาก บอกว่า ปาป๋าสู้ๆนะเดี๋ยวหนูจะเรียนนิติไปขอทุนตอนปี 3 ก็ได้ แต่ตอนนี้เค้าหันมาอยากเรียนนิติเค้าบอกอยากมาช่วยพ่อ

มีประโยคลูกสาวคนเล็กพูดกับคุณพ่อด้วย?
ทนายกฤษณะ : เค้าบอกว่าคุณพ่อเองก็ไม่ต้องไปดูสื่ออะไรให้มากนะ คุณพ่อก็บางอย่างอย่าพูดมากให้เซฟๆตัวเองด้วย กลัวความปลอดภัย

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะมาทำคดีนี้มั้ย?
ทนายกฤษณะ : ผมยืนยันว่าผมทำ อะไรดลบันดาลใจผมไม่รู้ผมจะพกรูปเค้าตลอดเวลาในการทำคดี บางทีผมคิดอะไรไม่ออกผมจะลูบหน้าน้องเค้า บอกโมช่วยพี่ด้วยเถอะเพราะพี่หาหลักฐานอะไรไม่ได้เลยตอนนี้ สักพักมันก็จะมีอะไรให้ผมค้นหาได้ แต่มันก็ความเชื่อส่วนบุคคลน้องจะอยู่ในเสื้อสูทผมตลอด ผมไปว่าความเมื่อเช้าผมก็ติดไปตลอด

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ