ต้องจบในชาตินี้! กลุ่มชาติพันธุ์ ยื่นก้าวไกล 3 ข้อเรียกร้อง เร่งคุ้มครองสิทธิ

Home » ต้องจบในชาตินี้! กลุ่มชาติพันธุ์ ยื่นก้าวไกล 3 ข้อเรียกร้อง เร่งคุ้มครองสิทธิ


ต้องจบในชาตินี้! กลุ่มชาติพันธุ์ ยื่นก้าวไกล 3 ข้อเรียกร้อง เร่งคุ้มครองสิทธิ

กลุ่มชาติพันธุ์ปลดแอก ยื่น 3 ข้อเรียกร้องถึงพรรคก้าวไกล ยันถอนรากถอนโคนปัญหาชาติพันธุ์ ออกกม.คุ้มครองสิทธิ์ ‘พิธา’รับข้อเรียกร้อง พร้อมดำเนินการ

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2565 ที่สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มชาติพันธุ์ปลดแอก ในนามคนรุ่นใหม่กลุ่มชาติพันธุ์และนักกิจกรรมทางสังคม เข้ายื่นหนังสือถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในงานเปิดนโยบายชาติพันธุ์ก้าวไกล ชู 3 เจตนารมณ์และข้อเรียกร้องแก้ปัญหาชาติพันธุ์อย่างถอนรากถอนโคน

นายลิขิต พิมานพนา ผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ปลดแอก กล่าวว่า กลุ่มชาติพันธุ์ถูกละเมิดสิทธิความเป็นคนอย่างน้อย 6 สิทธิ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิทางวัฒนธรรมและการศึกษา สิทธิในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ สิทธิในสัญชาติและการกำหนดตนเอง สิทธิในความเสมอภาคและไม่ถูกเลือกปฏิบัติ สิทธิในการมีส่วนร่วม รวมถึงสิทธิในการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานจากรัฐ คุณภาพชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์บนผืนแผ่นดินนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการเป็นพลเมืองชั้นสอง มีค่าแค่ในสวนสัตว์มนุษย์ ให้คนเมืองได้รับชมรื่นเริงใจ หาใช่เคารพในความต่างของกลุ่มชาติพันธุ์อย่างแท้จริง

แม้ที่ผ่านมารัฐบาลจะมีแนวนโยบาย แต่ยังมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อกลุ่มชาติพันธุ์ สอดแทรกอยู่ในกฎหมายและนโยบายต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศที่กล่าวถึงการคุ้มครองสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น ปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิชนเผ่าพื้นเมือง มติครม.วันที่ 2 มิ.ย. 2553 มติครม.วันที่ 3 ส.ค. 2553 รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 70 และแผนปฏิรูปประเทศด้านสังคม แต่รัฐบาลไทยกลับยังไม่ตระหนักถึงการคืนความเป็นคนแก่กลุ่มชาติพันธุ์อย่างแท้จริง ทุกกฎหมายและนโยบายที่ออกมานั้น กระทบต่อกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะหลังการทำรัฐประหารในปี 2557 สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มชาติพันธุ์ทั่วประเทศรุนแรงขึ้นเป็นอย่างมาก

ผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ปลดแอก กล่าวต่อว่า ตนขอนำเสนอเจตนารมณ์และข้อเรียกร้องของเรา ถึงพรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ที่พยายามผลักดันนโยบายด้านชาติพันธุ์เป็นพรรคแรก เพื่อให้รับไว้พิจารณาและทบทวนรายละเอียดบางส่วนสู่การแก้ไขปัญหาชาติพันธุ์อย่างถอนรากถอนโคน ควบคู่กับการสร้างฐานทางนโยบายรองรับ โดยมีเจตนารมณ์ดังนี้

1.กฎหมายเพื่อส่งเสริมศักยภาพ และคุ้มครองสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ ถือเป็นแนวนโยบายขั้นแรกที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันผลักดันให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทยโดยเร่งด่วน

2.ต้องปลดแอกมรดกสงครามเย็นออกจากนโยบายและกฎหมายทั้งหมด อาทิ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า นโยบายคณะกรรมการป่าไม้แห่งชาติ รวมถึงพ.ร.บ.สัญชาติ เป็นต้น

3.รัฐไทยและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะต้องรับผิดชอบต่อทุกการกระทำ การผลิตซ้ำมายาคติเชิงลบ ทุกการกดขี่ ทุกโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับกลุ่มชาติพันธุ์ อย่างน้อยคือการออกมาขอโทษกลุ่มชาติพันธุ์ด้วยความจริงใจและสำนึกผิด และการร่วมผลักดันให้เกิดปฏิบัติการตามข้อ 1 และ 2 โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง

“เราเห็นว่า ฐานทางนโยบายมีความจำเป็น แต่เรายังยืนยันว่าการแก้ไขปัญหาชาติพันธุ์นั้น ต้องเป็นไปอย่างถอนรากถอนโคน ในนามคนรุ่นใหม่ผู้เป็นทั้งปัจจุบันและอนาคตของกลุ่มชาติพันธุ์ ยืนยันว่าการปลดแอกชาติพันธุ์ ต้องจบในชาตินี้” กลุ่มชาติพันธุ์ปลดแอกย้ำ

ด้านนายพิธา กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกันเนื้อหาตามหนังสือและข้อเรียกร้องทั้งหมด และรับจะนำไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ