ตามล่า "โจ้-ตุ่น" คู่รักขับเก๋งแหกด่าน ชักปืนกราดยิงรถตราโล่ตำรวจ ชิงรถชาวบ้านหนี

Home » ตามล่า "โจ้-ตุ่น" คู่รักขับเก๋งแหกด่าน ชักปืนกราดยิงรถตราโล่ตำรวจ ชิงรถชาวบ้านหนี



ตามล่า "โจ้-ตุ่น" คู่รักขับเก๋งแหกด่าน ชักปืนกราดยิงรถตราโล่ตำรวจ ชิงรถชาวบ้านหนี

เปิดกล้องวงจรปิดนาที “โจ้-ตุ่น” หนุ่มสาวขับเก๋งแหกด่าน พอจนมุมชักปืนกราดยิงรถตราโล่ตำรวจ เพื่อเปิดทางวิ่งหลบหนี

เกิดเหตุคนร้ายชายและหญิง ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีขาว ทะเบียน 1 กษ 7931 กรุงเทพมหานคร แหกด่านตำรวจจราจร สภ.เมืองอุดรธานี ขณะปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอลล์ บนถนนมิตรภาพ อุดร-หนองคาย บ้านเก่าน้อย ต.หนองบัว ก่อนถึงทางลอดอุโมงค์ทั้งฝั่งขาเข้าตัวเมืองอุดรฯ ซึ่งคนร้ายได้ขับชนกรวยยางฝ่าด่านตรวจออกมา ก่อนที่จะใช้เส้นทางต่างๆ ในตัวเมืองอุดรธานีหลบหนี และสุดท้ายมาจนมุมบริเวณ ซ.มิตรสว่าง3 ชุมชนทุ่งสว่าง ทน.อุดรธานี ซึ่งเป็นทางพาดรถไฟ และมีสะพานข้ามคลองส่งน้ำเลียบทางรถไฟที่ รถยนต์ไม่สามารถขับต่อไปได้ คนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. กราดยิงใส่รถตราโล่ตำรวจจราจร รวม 12 นัด ที่ขับตามไล่มาจอดท้ายรถคนร้าย เพื่อเปิดทางวิ่งหลบหนี ก่อนคนร้ายชายหญิงจะวิ่งข้ามสะพานไปในชุมชนหนองเหล็ก ซึ่งคนร้ายที่เป็นผู้ชายได้ใช้อาวุธปืนพกไปชิงรถจักรยานยนต์ชาวบ้านขี่หลบหนีไป

ร่องรอยรถตำรจถูกยิง

ส่วนคนร้ายที่เป็นผู้หญิงได้วิ่งหลบหนีไปในความมืด โดยไม่ทราบว่าจะย้อนมารับหลบหนีไปด้วยกันหรือไม่ และตรวจค้นในรถพบ ยาบ้า 200 เม็ด และอุปกรณ์การเสพ อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 มม.จำนวน1 กระบอก มีกระสุนปืนอยู่เต็มรังเพลิง อยู่ในกระเป๋าสายสีดำ เครื่องมือและอุปกรณ์ตกแต่งปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ติดลำกล้อง ปืนบีบีกันสั้น จำนวน 1 กระบอก อาวุธมีด 1 เล่ม เหยื่อและอุปกรณ์รตกปลา เต้นท์นอน นอกจากนี้ยังพบบัตรประชาชนของคนร้ายทั้ง 2 คน ที่พยานยืนยันว่ามีตำหนิรูปพรรณตรงกันกับคนร้าย และพบป้ายทะเบียนรถ กจ-6132 หนองคาย ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนจริงของรถยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีขาวที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ หลังจากตำรวจตรวจสอบเลขตัวถังของรถ พบผู้ครอบครองเป็นผู้หญิงอยู่ในพื้นที่ อ.สระใคร จ.หนองคาย ส่วนป้ายทะเบียนที่ติดอยู่กับรถเป็นทะเบียนปลอม ขณะนี้ได้ประสานเจ้าของรถมาให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 4 เมษายน 2564 เวลา 12.30 น.  ที่ห้องปฏิบัติการสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี , พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สุรชิต ฤทธิลี รอง ผกก.สส. สภ.เมืองอุดรธานี  ,พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ,พ.ต.ต.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส.ฯ และตำรวจสืบสวน ร่วมกันประชุมความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้ายก่อเหตุยิงรถตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดอุดรธานี หลังพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุเจอบัตรประชาชน อยู่ในรถ คือ นายพนาไพร หรือ โจ้ อายุ 36 ปี ชาว ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และผู้หญิงที่มาด้วยกันคือ นางสาววรัญญา หรือ ตุ่น อายุ 35 ปี ชาว ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี

ของกลางที่ยึดได้จากรถผู้ต้องหา

โดยทั้งคู่เพิ่งคบหากันได้ไม่นาน หลังจากที่นายพนาไพร เพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำจังหวัดอุดรธานี ซึ่งวันนี้ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ  โดยเฉพาะบริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งกล้องวงจรปิด CCTV ทน.อุดรธานี สามารถจับภาพคนร้ายทั้งสองคนขณะวิ่งข้ามสะพานเลียบคลองทางรถไฟเอาไว้ได้ ในภาพกล้องวงจรปิดจะเห็น นางสาววรัญญา วิ่งนำหน้า ซึ่งมีชาวบ้านขี่ รถจยย. ข้ามคลองไป แล้วก็ขับรถจยย. ย้อนกลับมา ไม่นาน นายพนาไพร วิ่งหลบหนีตามมา หลังก่อเหตุยิงกราดใส่รถตำรวจจราจร ชาวบ้านที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาต่างพากันรีบขี่หลบหนี โชคดีที่ไม่มีคนบาดเจ็บและสูญเสียแต่อย่างใด

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากประชุมเสร็จแล้ว ทางตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับคนร้ายในข้อหา 4 หนัก ร่วมกัน พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน , ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 , ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ,พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร  และยิงปืนในที่สาธารณะ ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นคำร้องขอศาลออกหมายจับได้ภายในวันพรุ่งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของนายพนาไพร พบว่าเคยถูกตำรวจ สภ.กุมภวาปี จับกุมในข้อหา ครอบครองยาเสพติดประเภท 1 และอาวุธปืน เมื่อปี 2561-2562 เมื่อพ้นโทษก็หวนกลับมายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก คนร้ายเป็นที่ต้องการตัวของ ตำรวจ สภ.หนองแสง และตำรวจ สภ.กุมภวาปี หลบหนีไปพักตามสถานที่ต่างๆ และไม่มีจุดหมายที่พักอาศัยที่แน่นอน ส่วนอาวุธปืนคาดว่าคนร้ายสั่งซื้อมาทางออนไลน์”

โดยคนร้ายเร่ร่อนไปพักอาศัยตามที่ต่างๆ ไม่กล้าอยู่ที่บ้าน จนกระทั่งมาก่อเหตุขับรถแหกด่าน ยิงต่อสู้กับตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งไล่ล่าตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และอยากฝากถึงพี่น้องประชาชน หากใครพบเห็นบุคคลที่มีตำหนิรูปพรรณตามภาพวงจรปิด ให้รีบแจ้งตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี หมายเลข 042221077 หรือโทร 191 ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากคนร้ายเป็นบุคคลอันตราย และมีอาวุธปืน โดยก่อเหตุอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ