หลังจากที่สร้างกระแสฟีเวอร์ให้กับแฟนๆ ละครชาวไทยในช่วงนี้เป็นอย่างมากสำหรับละครแนวไทบ้านอีสาน มนต์รักหนองผักกะแยง กับความน่ารักของคู่พระนาง ณเดชน์ คูกิมิยะ และ โบว์ มเลดา ที่ทำให้หลายๆ คนต่างพากันจิ้นไปตามๆ กัน
ซึ่งนอกจากความน่ารักของบทละครแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนคิดถึงบ้านเกิดนั่นก็คือโลเคชันถ่ายทำของละครที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม ดูแล้วทำให้คิดถึงบ้านเกิดไม่ใช่น้อย ล่าสุดทางเพจสำนักอุทยานแห่งชาติได้โพสต์ตามรอยโลเคชันสวยจากละคร มนต์รักหนองผักกะแยง ที่บริเวณน้ำตกเจ็ดสาวน้อย จังหวัดสระบุรีนั่นเองโดยมีใจความดังนี้
จริงๆ แล้วแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยหลายๆ แห่งของอุทยานแห่งชาติ และวนอุทยาน ถูกใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ ทั้งภาพยนตร์ สารคดี หรือละครโทรทัศน์ เพื่อประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อหลายๆ รูปแบบ เช่นเดียวกับเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แอดมินมีโอกาสได้ชมละครหลังข่าวทาง ช่อง 3 เรื่อง “มนต์รักหนองผักกะแยง” ละครน้ำดีที่ดูสนุก และมีสอดแทรกสาระไว้มากมาย โดยในวันนั้นเป็นฉากริมลำธารกลางป่าที่พระเอกกำลังช่วยปฐมพยาบาลนางเอกที่เพิ่งจมน้ำ ซึ่งแอดมินจะบอกว่าโลเคชั่นในฉากนี้ก็คือ แหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ในเส้นทางเที่ยวน้ำตก ของอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย จังหวัดสระบุรี ซึ่งในช่วงที่ทีมงานเข้าไปถ่ายทำน้ำตกของที่นี่อาจจะมีน้ำน้อยไปนิด แต่ความงามของธรรมชาติที่ผู้จัดได้ถ่ายทอดออกมาให้ชมก็งดงามไม่น้อยเลยฉากนี้นอกจากผู้ชมจะได้ฟินกับภาพความใกล้ชิดของพระเอกนางเอกที่กำลังเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์มากขึ้นแล้ว ในฉากจะเห็นภาพต้นไม้ใหญ่ที่เป็นองค์ประกอบเด่นในฉากนี้เช่นกัน ซึ่งต้นไม้ชนิดนี้นั่นก็คือ…ต้นไคร้ย้อย
สำหรับอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย แอดมินเองก็เคยไปถ่ายภาพธรรมชาติสวยๆ มาเมื่อปีก่อน รู้สึกได้เลยว่าเสน่ห์ นอกจากตัวน้ำตกเจ็ดสาวน้อยที่งดงามแล้ว ภาพที่น่าจดจำเป็นอย่างมากคงต้องยกให้ต้นไคร้ย้อย ไม้งามที่มีความโดดเด่นตลอดแนวลำธารคู่กับน้ำตกแห่งนี้จริงๆ ซึ่งวันนี้แอดมินขอนำความรู้เรื่องของต้นไคร้ย้อยมาบอกเล่าให้เพื่อนๆทราบและรู้จัก เผื่อวันหน้าเพื่อนๆ มีโอกาสได้เข้าไปชมสถานที่จริงในวันที่ได้ไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อยกัน
ต้นไคร้ย้อย หรือ กระดิ่งนางฟ้า ไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 5-30 เมตร ไม่ผลัดใบ เจริญเติบโตในที่ร่มใกล้แม่น้ำ เรือนยอดแผ่กว้างพุ่มใบทึบ แตกกิ่งต่ำ กิ่งอ่อนเกลี้ยง เปลือกเรียบหรือหยาบเล็กน้อย สีน้ำตาลปนเทา ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ ใบรูปรีหรือรูปใบหอก กว้าง 1.5-5.5 ซม. ยาว 7-19 ซม.ปลายใบแหลมทู่ โคนใบสอบแคบ ผิวใบด้านบนเกลี้ยง ด้านล่างมีขนประปราย ในช่วงที่เป็นใบอ่อน ใบหนา เส้นแขนงใบข้างละ 6-19 เส้น เส้นใบย่อยเห็นไม่ชัด ก้านใบยาว 0.5-4 ซม. ดอก สีขาว มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะ ห้อยลง ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ยาว 6-10 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปใบหอกสีขาวอมเหลือง กลีบดอก 5 กลีบ รูปไข่กลับมีขนประปรายทั้งสองด้าน โคนกลีบดอกด้านมีกลุ่มขนเรียงตัวเป็นสองแถว ปลายกลีบเป็นริ้วละเอียด รังไข่ป้อมมีขนสั้นคลุมแน่น ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-2.5 ซม. ผล ผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว รูปทรงกระสวยหรือรูปรี กว้าง 1.5-2 ซม. ยาว 3-4 ซม. ผิวผลบางเรียบ เกลี้ยง มีเมล็ดรูปกระสวย ก้านผลยาว 2-6 ซม.
