ตร.เตรียมลงพื้นที่ ตรวจเหตุ ‘ตายทิพย์’ ผู้เสียหายอยากเอาผิด แต่ติดเรื่องบัญชี เผยอยากรู้ กุเรื่องไปเพื่ออะไร จะเอาเงินไปทำอะไร
กรณีเพจ Red Skull Beauty Clini โพสต์ข้อความ ระบุว่า “เสียแรงที่กูเคยช่วยเหลือไปไม่น้อย ไหนจะลูกเพจคนอื่นๆอีก อะไรทำให้สิ้นคิดถึงขนาดต้องแกล้งตายเพื่อจะเอาเงินบริจาค แล้วชีวิตต่อไปที่เหลือคุณจะทำยังไง ต่อไปจะค้าขายอะไรกับใครได้ พูดกับด้วยบาปบุญแบบคนที่เชื่อทางพุทธชีวิตคุณที่ลำบากเพราะชาติก่อนทำกรรมไว้ ชาตินี้ยังจะสร้างเพิ่มอีกไม่เข็ดไม่หลาบเลยหรือ ทำแบบนี้ชีวิตมีแต่ตกต่ำวนลูปหาทางออกไม่ได้ไปทั้งชาตินั่นละ”
โดยเรื่องราวเกิดจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความลักษณะว่า “ผมน้องเขื่อนครับ ผมจะมาแจ้งให้ทราบว่าแม่เสียแล้ว แม่หายไปตั้งแต่คืนวันเสาร์ ติดต่อไม่ได้ พึ่งหาเจอวันนี้ตอนสาย ไปเจอแม่ที่ป่ายูคา แม่เอาน้องไปด้วย แม่เอาน้องเปาผูกเชือกที่ขาจ้องเปาแม่คงกลัวว่าน้องจะเดินไปทั่วเลยผูกเชือกกับขาแม่ไว้ แล้วแม่ก็กินยา ไปเจอน้องเปาก็หมดแรงแล้ว แต่ช่วยน้องเปาเอาไว้ได้ทัน กว่าจะไปเจอแม่ก็สายเกินไปแล้ว
ผมฝากอโหสิกรรมให้แม่ด้วยนะครับ ตัวผมไม่รู้ว่าแม่ทำอะไรไปบ้างแต่ไม่ทำร้ายตัวเองมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้แม่ได้ไปแล้วจริงๆผมฝากขอโทษแทนแม่ด้วยนะครับ ต่อจากนี้จะทำอย่างไงต่อผมไม่รู้เลยฝากอโหสิกรรมให้แม่ผมด้วย”
เมื่อโพสต์นี้ได้ถูกแชร์ออกไปยังเพจดังกล่าวทำให้คนในสังคมออนไลน์เกิดความสงสารจึงโอนเงินให้รวมเป็นเงินหลักแสนบาท และพร้อมที่เป็นเจ้าภาพงานศพให้
ทว่าเรื่องจริงได้ปรากฏคือ หลังจากที่ประชาชนได้ทราบข่าวจึงติดต่อมาหายังผู้ใหญ่บ้านเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และจะขอมาเป็นเจ้าภาพงานศพ ทางผู้ใหญ่บ้านจึงตอบกลับไปว่าอันที่จริงแล้วคนใน โพสต์ดังกล่าวยังไม่ได้ตายแต่อย่างใด เป็นเพียงเรื่องราวที่แต่งขึ้นเพื่อที่จะเรียกเอาเงินบริจาค
ล่าสุด วันที่ 21 เม.ย.65 ผู้สื่อข่าว สอบถาม พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผกก.สภ.ปักธงชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีผู้เสียหายในพื้นที่เข้ามาแจ้งความแต่อย่างใด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัด โดยมีอยู่รายหนึ่งอยู่จังหวัดชลบุรี โทรศัพท์เข้ามาสอบถามพร้อมกับเล่าให้ฟังว่าอยากจะเอาผิดเรื่องหลอกลวงให้โอนเงิน แต่พอเห็นชื่อบัญชีเป็นชื่อลูกก็ไม่อยากจะเอาผิด เพียงแค่อยากจะทราบถึงสาเหตุในการกระทำในครั้งนี้ว่าอยากจะเอาเงินไปทำอะไร
พ.ต.อ.ชนัตถ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับกำนันในพื้นที่ลงไปนำตัวผู้ก่อเหตุมาเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป