วันที่ 15 ต.ค.ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในเหตุการณ์เหยียบกันตายกว่า 130 ศพที่สนามฟุตบอลในประเทศอินโดนีเซียแจ้งผลสรุปการสืบสวนว่า แก๊สน้ำตาเป็นสาเหตุหลักในโศกนาฏกรรมที่เกิดในสนามฟุตบอลครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของโลก
นายมาห์ฟุด เอ็มดี รมว.ด้านการประสานงานความปลอดภัยระบุว่า ทีมสอบสวนอีกคณะยังอยู่ระหว่างสอบสวนความเป็นพิษของแก๊สน้ำตาที่ตำรวจใช้ แต่ไม่ว่าผลสรุปของทีมนี้จะออกมาอย่างไร ก็ไม่อาจลดหรือด้อยผลสรุปของทีมแรกที่ระบุว่า การเสียชีวิตหมู่มีสาเหตุหลักจากแก๊สน้ำตา ภายหลังที่เจ้าหน้าที่และสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียเผชิญคำถามและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุใดตำรวจใช้แก๊สน้ำตาภายในสนามฟุตบอล ซึ่งเป็นมาตรการควบคุมฝูงชนที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่าประกาศห้ามใช้
นอกจากนี้พบอีกว่า หน่วยงานตำรวจที่ปฏิบัติงานไม่รู้ว่ามีการห้ามใช้แก๊สน้ำตาในการแข่งขันฟุตบอล โดยแก๊สน้ำตาถูกยิงออกไปอย่างขาดการพิจารณาและเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการที่เกินกว่าเหตุไปมาก
แม้ตำรวจหาทางที่จะลดความสำคัญบทบาทของตำรวจที่มีผลต่อโศกนาฏกรรม โดยย้ำว่าประตูทางออกสนามหลายประตูแคบ ทั้งที่คนล้นสนามเกินความสามารถที่จะรองรับนั้นมีส่วนทำให้เหตุการณ์เลวร้ายลง นอกจากนี้ตำรวจและทหารกำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ในสังกัดตนเองเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องกับเหตุสลด
……………
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โจโกวี ปธน.อินโดฯสั่งทบทวนมาตรการความปลอดภัย เหตุแฟนบอลเหยียบกันตายพุ่งอย่างน้อย 125 ศพ