ตร.ทางหลวงเข้ารับทราบข้อหาแล้ว หลังช่วยลูกชาย-ถีบสาวสอง เหยื่อเปิดใจช้ำเรียกค่าเสียหาย โดยยินยอมชดใช้มือถือที่พัง แต่คดีความยังสู้ต่อ
จากกรณีเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างคู่รักสาวสอง จนพ่อของฝ่ายชายเป็นถึงตำรวจทางหลวงมาถีบสาวสองกระเด็นตกรถจักรยานยนต์ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 5 พ.ค.65 พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า คู่กรณีฝ่ายพ่อของเด็กหนุ่ม 19 ปี ซึ่งเป็นตำรวจ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาจากพนักงานสอบสวนแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย ตามมาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.อ.กิตติพงษ์ กล่าวว่า ส่วนฝ่ายชายแฟนของสาวสอง ได้แจ้งความกลับเช่นกัน ข้อหาทำร้ายร่างกาย มีบาดแผลที่คอและใบหน้า ตามมาตรา 295 ระบุผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งฝ่ายแฟนอายุ 19 ปี รอผลตรวจของแพทย์ ส่วนกรณีทำให้เสียทรัพย์เป็นไอโฟนนั้น ฝ่ายแฟนหนุ่มและสาวสองตกลงชดใช้กันเรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คู่กรณีตำรวจทางหลวงที่มารับทราบข้อกล่าวหานั้น ไม่ยอมพูดอะไรทั้งสิ้น พนักงานสอบสวนได้สอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา 2 ชั่วโมง จากนั้นตำรวจทางหลวงคู่กรณีได้เดินทางกลับทันที
นายธีรพัฒน์ ผู้เสียหายซึ่งเป็นสาวประเภทสอง แจ้งว่า วันนี้ฝั่งคู่กรณีติดต่อมา เพื่อเจรจาตกลงไกล่เกลี่ยแล้ว โดยตนได้ร้องขอให้ชดใช้ค่าเสียหายกับตนเองคือโทรศัพท์มือถือมูลค่า 4 หมื่นบาทที่เสียหาย ค่ารักษาพยาบาลจากอาการบาดเจ็บ ค่ารักษาและศัลยกรรมจมูกที่บาดเจ็บ รวมทั้งค่าเสียโอกาสไปเป็นเงินประมาณ 150,000 บาท แต่ฝั่งคู่กรณีไม่ยิมยอม จึงต้องให้เป็นเรื่องของตำรวจดำเนินคดีต่อไป ในส่วนของฝั่งตนตอนนี้ก็ปรึกษาทนาย เพื่อให้ช่วยดำเนินการต่อสู้ในชั้นศาล และทราบมาว่าวันนี้ฝั่งพ่อและลูกคู่กรณีได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้วด้วย ฝ่ายลูกชายยินยอมที่จะชดใช้ค่าโทรศัพท์มือถือให้กับตน จึงมีแต่เรื่องทำร้ายร่างกายกันที่เป็นคดีความ