ตม.แถลง จับหนุ่มแดนมังกร เปิดบริษัทลวงซื้อขายเช่ารถก่อนเชิด เสียหายกว่า 100 ล้าน หนีมาซุกไทย
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2566 ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (เมืองทอง) พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. แถลงผลจับกุม นายหม่า อายุ 31 ปี สัญชาติจีน หลังได้รับการประสานงานจากสำนักงานกงสุล ณ นครคุนหมิง และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย
ว่านายหม่าผู้ต้องหาตามหมายจับรายสำคัญ ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีฉ้อโกงประชาชนมีมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท แล้วหลบหนีการจับกุมเข้ามาภายในประเทศไทย กก.4 บก.สส.สตม. จึงสืบสวนจนทราบว่านายหม่าหลบหนีและพักอาศัยอยู่ในพื้นที่มักกะสัน และติดตามจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา บริเวณซอยราชปรารภ หลังจับกุมตัวเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่าเป็นคนต่างด้าวอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (โอเวอสเตย์)
ทั้งนี้จากการตรวจค้นภายในห้องพักพบเอกสารหลายรายการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดในลักษณะฉ้อโกงประชาชน โดยเปิดบริษัทซื้อขายเช่ารถยนต์ และโฆษณาชักชวนให้ประชาชนมาซื้อรถยนต์หรือเช่ารถยนต์ผ่านแอพพิเคชั่น เมื่อมีประชาชนหลงเชื่อเข้ามาเช่าหรือซื้อเป็นจำนวนมากจึงปิดบริษัทและหลบหนีมายังประเทศไทย
พล.ต.ต.ธนิต กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ยังแถลงผลจับกุม นายลู่ (นามสมมุติ) อายุ5 2 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับสาธารณรัฐประชาชนจีน ข้อหาลักลอบนำเข้าสินค้าเม็ดพลาสติกโดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยเป็นการประสานงานจากตำรวจสาธารณรัฐประชาชนจีน หน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ แจ้งข้อมูลว่านายลู่ได้หลบหนีเข้ามายังประเทศไทย เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี
จากการตรวจสอบพบว่าพักอาศัยอยู่ภายในคอนโดแห่งหนึ่งย่านบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ตำรวจจึงเข้าขอตรวจสอบหนังสือเดินทางแต่นายลู่ ไม่สามารถนำหนังสือเดินทางมาแสดงได้จึงตรวจสอบลายนิ้วมือกับระบบสารสนเทศสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (Biometrics) พบว่านายลู่ เดินทางออกจากประเทศไทยตั้งแต่ปี 2556 และไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาภายในประเทศไทยอีก คาดว่าจะหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ
พล.ต.ต.ธนิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังแถลงผลการจับกุมชาวต่างชาติที่กระทำความผิด และหลบหนีคดีเข้ามาอยู่ในประเทศไทย โดยได้รับการประสานงานและข้อมูลจากสถานทูตและสถานกงสุลแต่ละประเทศเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีจำนวน 3 คดี โดยสามารถผู้ต้องหาได้ 4 ราย เป็นชาวจีน 1 ราย คดีข่มขืนชาวจีนในพื้นที่ สน.ประเวศ และหลบหนีไปอยู่จังหวัดระยอง โดยตำรวจ สน.ประเวศได้ประสาน ตม.ติดตามจับกุมและนำตัวส่ง สน.ประเวศเพื่อดำเนินคดีแล้ว
พล.ต.ต.ธนิต กล่าวอีกว่า จับกุมชาวฝรั่งเศส จำนวน 2 ราย ในข้อหาเกี่ยวกับจำหน่ายยาเสพติด องค์กรอาชญากรรม และฉ้อโกง โดยทั้ง 2 รายจับกุมตัวได้ที่จังหวัดภูเก็ต และส่วนชาวไต้หวัน มีพฤติการณ์หลบหนีคดีจ้างวานฆ่าคู่อริมในไต้หวัน เนื่องการถูกโกงเงินพนันกว่า 50 ล้านบาท โดยมีการกราดยิงปืนในที่สาธารณะกว่าร้อยนัด สามารถจับกุมตัวได้ที่พัทยา
พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบการกระทำผิดที่เชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมในประเทศไทย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ควบคุมตัวไว้เพื่อสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ เช่น ฐานลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต อยู่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และผลักดันออกนอกราชอาณาจักรต่อไป