ดีเจต้นหอม ทำไมยังโสด เมื่อเจอคนที่ใช่ น้ำตาตก จบรัก ไม่ใช่เพราะเด็กเอ็น

เรียกว่าเป็นสาวโสด ซิงเกิลมัม สุดแซ่บที่หลายคนมองว่าทำไมเลือกที่จะเป็นโสด สำหรับ ดีเจต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ความรักระหว่างเส้นทางชีวิตที่แม้จะเจอคนใช่ แต่ก็ต้องปล่อยมือไปให้เขาเดินทางไปในเส้นทางชีวิตของเขา

โดย แพท ณปภา ตันตระกูล ได้มานั่งคุยกับ ดีเจต้นหอม เล่าถึงจุดสปาร์กรักกับหนุ่มคนดังกล่าวในรายการ โดนเทเซมาที่แพท EP.25 ทางช่อง อมรินทร์ทีวี และได้พุ่งคำถามไปว่า ใช่รึเปล่า คนที่เขาสักมีลายทั้งตัว จากข้อมูลที่รู้มา คุณเป็นคนเซ็ตฉากบอกเลิกวันนั้นเหรอ

ด้าน ต้นหอม เล่าว่า ไม่ใช่ คือเขาเข้าใจว่าเราเลิกกับเขาเพราะเขาทำผิดคืนนั้น เขาก็จะพูดกับคนอื่นตลอดเวลา ตีกะXรี่ทำไมต้องเลิก?! เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้ผิดขนาดนั้นหรอก เขาไม่ได้นอกใจ จริงๆ มันก็เรื่องเล็กแหละ เราเข้าใจว่ามันต้องมีกินนอกบ้านไรบ้าง เพียงแต่ที่เราตัดสินใจเลิกเพราะว่ามันมีเรื่องอื่นที่สะสม

เขาก็รู้แหละว่าเขาเจ้าชู้ ตอนนั้นเขายังไม่หยุดเนาะ มันก็สะสมมา เราก็เริ่มเอ๊ะ! เราอยู่แล้วเราสุขจริงหรือเปล่า ถามตัวเองทุกวันเลยว่าถ้าวันหนึ่งเลิก จะมีความสุขกว่ามั้ย มันหนึ่งก็มีเสียงผุดมาว่าต้องมีความสุขมากกว่า ต้องเลิก!

แล้วอยู่ๆ จะไปบอกเลิกเขา มันไม่มีเหตุผลอะไรเกิดขึ้น เราก็ต้องหาเหตุผลในการเลิกกับเขา ซึ่งเราก็รู้เนเจอร์เขาอยู่แล้วเวลาไปท่องเที่ยว เขาก็ต้องมีติดไม้ติดมือ เวลาไม่ได้หิ้วเราไป เขาก็จะไปหากินข้างนอก เราก็รู้จักนิสัยเขาดีทุกอย่าง มีแต่เขานี่แหละที่คิดว่าเราไม่รู้

ซึ่งพอถึงวันจริงเขาก็มีผู้หญิงจริง ถือว่าผิดต่อหอม เขาก็เลยเข้าใจว่าเราเลิกเพราะเรื่องนี้ ตั้งแต่นั้นไม่เจอกัน ไม่ร่วมงานกัน ไม่คุยกัน 7 ปี ทุกอย่างทีมงานจะเลี่ยงให้หมด แต่เราก้ต่างคนต่างมีครอบครัวกันไปแล้ว

วงจรหอมจะคบผู้ชาย 2 ประเภท ผู้ชายรักเดียวใจเดียว เราจะทำงานไม่ได้ แบบหึงอะไรนักหนา แล้วงานเราอ่ะ เวลาเจอผู้ชายเราก็จับมือ โอ้โหกลับบ้านมาเป็นเรื่องเลยทำไมต้องทำแบบนี้ ทะเลาะกันทุกวัน แล้วผู้ชายที่หวง รักเรามากๆ เราขนลุกทำงานไม่ได้ จนโปรดิวเซอร์เรียกไปด่าว่าทำงานแบบนี้ไม่รู้จะจ้างมาทำไม พอเลิกกับคนนี้เราก็เลยหาใครสักคนที่เข้าใจการทำงานเรา ปล่อยเราเป็นอิสระ

จนกระท่างไปเรียนกับครูเงาะ ครูบอกเขียนเลยอะไรที่ไม่เอา แล้วคนนั้นมี แปลว่าไม่เอา เจ้าชู้ เห้นแก่ตัว ไม่เป็นสุภาพบุรุษเรื่องใหญ่มั้ย แปลว่าผู้ชาย 1 คน ถ้ามี 1 ใน 3 ข้อนี้ ให้ตัดไปเลยว่าไม่เอา หลังเรียนจบใช้เลย จนไปเจอชาวต่างชาติ มีอยู่วันหนึ่งไปปาร์ตี้ ดีเจมะตูมบอกจะนัดผู้ชายให้คนหนึ่ง แล้วในงานก็มีคนที่เราชอบอีกคนหนึ่ง

คนที่เป็นต่างชาติเนี่ยไม่ใช่สเป๊กเลย ไม่ได้ดูแพรวพราว เขามาคนเดียว แล้วพอเราไม่ได้ปิ๊งเขาตั้งแต่แรก เราก็เป็นตัวของตัวเอง เขาก็มองว่าเราเป็นคนสนุก แล้วบังเอิญคืนนั้นมันดันมีแฟนเก่าเขามาด้วย แล้วแฟนเก่าเขายังตัดใจไม่ได้ เมา แล้วก็ชนเพื่อนโต๊ะเรา ผู้ชายก็รู้สึกหน้าเสีย เขาหันมาบอกหอม ไม่ต้องกังวล คุณมีความสุข ฉันก็มีความสุข เขาก็ประทับใจ

ในขณะที่ผู้ชายที่เราชอบลากเราไปคุย “พี่ครับ ผมชอบพี่ พี่คุยกับใครหรือยัง ชอบมได้มั้ย” เด็กเลย ทรงสไตล์เราเลย ตี๋ ขาว ทรงสาย Y ในวงการ แต่เพื่อนเขาเดินมาบอกว่าจะเอาพี่เขาไปเป็นเพื่อนแม่เหรอ เราก็รู้สึกสังคมไม่ดี แต่ตัวเขาดีนะ เขาก็บอกเพื่อนไปว่าทำไมพูดกับพี่เค้าแบบนั้น

แล้วพอเจอคนที่มันใช่ ทุกประโยคคือใช่ คือเขาจะถามเรื่องอนาคต ซึ่งเป็นคำถามที่เราถามผู้ชายมาโดยตลอด แต่ผู้ชายไม่เคยตอบเราได้เลย แปลว่าผู้ชายที่ถามเรื่องอนาคตคือเขาสนใจและไม่อยากเสียเวลา เขาจะจริงจัง เขาบอกอะไรคือเป้าหมายในชีวิตของคุณ ก็คุยกัน 2-3 วัน เราก็บอกว่าโกลของเราคือแค่ได้ใช้เวลากับคนที่เรารัก ซึ่งเวลาสำคัญมาก เงินซื้อไม่ได้ ซึ่งผู้หญิงคนอื่นที่ตอบเขาคืออยากรวย อยากทำนั่นนี่ ก็ดันมาถามชะนีที่รวยอยู่แล้วไง ผู้ชายก็ประทับใจ

คือเขาเป็นคนฮ่องกงที่ไปเติบโตที่แคนาดา ระดับความคิดเขาคือฝรั่งเลย เขารักตรงที่เราตลกมาก คนนี้แหละใช่เลย แต่เขากบอกเราว่าเขากำลังจะไปจากเมืองไทย คือเราก็รู้แล้วว่าเขาไม่ชอบเมืองไทยเลย เขาก็บอกว่าถ้ายูทำให้ไอ รู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้าน ไอสามารถอยู่ในประเทศนี้ได้นะ เราก็คิด ทันมั้ยอ่ะ ไม่ทันสิ ก็เขาจะไปแล้วไง เขาตัดสินใจแล้ว คนนี้คือทำให้เราได้รู้จักคำว่าใช่

วันที่เราเลิกกันเขาก็เปรียบเทียบความรักเหมือนพาสเตอร์ยา ยูอยากจะแกะพาสเตอร์ยาหรือยัง ดึงแรงๆ มันเจ็บแต่จบ หรือค่อยๆ ดึง หรือยังไม่อยากรับรู้แล้วปิดแผลมันไว้ เราก้เลยปิดมันไว้ก่อน รับไม่ได้ มันเร็วเกินไป แต่ก่อนที่เขาไป เขาก็ขอใช้ชีวิตอยู่ที่ภูเก็ตมาก เพื่อที่จะอยู่คนเดียวและมูฟออน เขาเห็นเราเศร้าๆ แล้วหลังจากเลิกกันเราก็จะไม่คุยกันอีกเลย จนเราก็จัดทริปสั่งลาอีกรอบเราก็บอกฉันพร้อมที่จะดึงพาสเตอร์ยาออกแล้ว นี่คือการเสียสละที่สุดในชีวิตเราแล้ว เราจะคืนเวลาทั้งหมดให้ แล้วเขาก็น้ำตาคลอ แล้วก็บอก I Love You (น้ำตาไหล)

ถามว่าทำไมไม่เอาเราไปอยู่กับเขา ถ้าเราไม่ใช่ดารา ไม่ใช่คนดัง เขาคงชวนไปแล้ว แต่สิ่งมีเรามีอยู่ตอนนี้ เราย้ายไปเขาไม่ได้เลย เขาเป็นผู้บริหารก็จริง แต่เขาไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น เขาบอกกลับแคนาดาไปอยากไปเป็นลูกจ้าง หาประสบการณ์ เขาเรียนมาหลายอย่างมากในสิ่งที่อยากทำ ในขนาดที่เรามีทุกอย่างแล้ว และก็มีลูกที่น่ารัก เขาก็ขอบคุณเรา เพราะเขาไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว ไม่เสียใจเลย มีความสุข แต่เสียดายมีโอกาสเจอคนที่ใช่แล้ว แต่ถ้าเขาไม่เดินออกไป เราก็ไม่รู้การเป็นแฟนที่ใช่ต้องทำตัวยังไง

ถามว่าตอนนี้อยากมีแฟนมั้ย อยากมี เหงา แต่มันไม่ใช่ใครก็ได้ พอเจอต่างชาติก็คิดว่าหอมก็เหมาะ ถ้าหนุ่มไทยมาจีบก้ต้องหัวนอกหน่อย