ดวงจันทร์ สุวรรณี เสียใจสุดในชีวิต คิดผิด ไม่ต่อสัญญาแกรมมี่ เชื่อ ดวงตก งานหดหาย ทุ่มเงินทำเพลงก็ไม่ดัง

เสียใจที่สุดในชีวิตก็เรื่องนี้ นักร้องสาว ดวงจันทร์ สุวรรณี เปิดใจตลอดระยะเวลาที่ไม่ต่อสัญญากับทางสังกัดแกรมมี่ คิดผิดที่สุด ออกมาเป็นนักร้องอิสระ ทำผลงานเพลงเอง ทุ่มเงินตัวเองทุกบาททุกสตางค์เพื่อดันงาน เผยไม่ง่ายเลย งานลดลงต่อเนื่อง

โดย ดวงจันทร์ สุวรรณี ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ว่า “ไม่มีค่ายค่ะ บางเพลงของพี่ถ้าทำเสร็จแล้ว เราก็ส่งให้ทางแกรมมี่ ผู้ใหญ่ยังเมตตาอยู่ เรายังร้องเพลงของแกรมมี่ได้ทุกเพลง และเอาเพลงที่ตัวเองทำไปฝากรวมกับแกรมมี่โกลด์ค่ะ เพราะว่าหลังจากโควิด-19 ยังไม่ได้อัพเดตว่าจะฝาก 2 เพลงนี้ไปมั้ย หรือว่าทางแกรมมี่มีการเปลี่ยนแปลงในการทำงานอย่างไรบ้าง”

ตอนนี้รู้ซึ้งถึงการมีค่ายและไม่มีค่าย? “แน่นอนค่ะ เพราะเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว เรามองว่าการมีค่ายดีที่สุด เหมือนกับตอนที่เรามีค่ายการทำงานของเราทุกอย่าง ผลดีคือเราไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดใดเลย ทางค่ายดูแลหมด การเจอสื่อ การโปรโมตต่างๆ ค่ายดูแลเราดีอยู่แล้ว เพราะเราไม่มีศักยภาพพอที่จะให้รายการทีวี หรือสื่อต่างๆ มาเชิญเราไปออกรายการในขณะที่เราไม่มีค่าย

แล้วการที่ไม่มีค่ายสำหรับเรา เรามองว่าไม่มีผลดีกับเราเลย จริงๆ แล้วก็เสียใจนะที่ในวันนั้นเราตัดสินใจไม่ต่อสัญญา เราแค่คิดว่าเข้าวงการมาหลายปี ประมาณ 10 กว่าปี เราก็ไม่เคยได้นอนกับแม่ แล้ววันนั้นเราคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง มีเพลงดัง เราพอใจที่เรามีในจุดนั้น

แต่ลืมนึกไปว่าการที่เอาตัวเองกลับไปอยู่ในภาคใต้ ไปอยู่ใกล้แม่และครอบครัว มันทำให้เราห่างจากสื่อไปหมด และไม่มีค่ายดูแลมันยิ่งห่างออกไป จากที่เรามีงานเดือนนึง 20 กว่าวัน งานหายอย่างต่อเนื่อง มันเฟดลงไปเรื่อยๆ แล้วมันทำให้เราหายไปจากสื่อเลย”

ปรับตัวและรับมือไหวไหม? “ค่อยๆ ปรับนะคะ ทุกครั้งที่ทำเพลงไม่มั่นใจในตัวเอง คือการตั้งใจของเราจากการร้องเพลง ดนตรี การใช้ห้องอัด เราทำงานคุณภาพ บอกได้เลยว่าเราก็ทำงานกับทีมงานแกรมมี่เนี่ยแหละ เพียงแต่ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดต้องออกเอง แทนที่จะเป็นค่ายดูแล แล้วทุกครั้งที่ทำงานเราไม่มั่นใจเลยว่าเพลงเราจะได้รับการโปรโมตแค่ไหน จะมีคนดูและชอบเพลงเรามั้ยจากที่เรานำเสนอไป

แต่หากถามถึงคุณภาพ เราทำออกมาดีแน่นอนค่ะ เพียงแต่ว่ามันไม่มีความหวังอะไรเลย แต่เราก็ไม่ได้คาดหวัง ขอแค่เราได้ทำงานออกไปดีที่สุดแล้ว มันจะดังหรือไม่ดังเราจะไม่เสียใจเลย สิ่งที่คิดมีอยู่แค่ข้อเดียวคือทำให้ออกมาดีที่สุด หาเพลงดี ดนตรีดี ห้องอัดดีๆ

เหมือนที่เคยทำงานมาเพื่อรักษาเครดิตตัวเองไว้ ไม่ด้อยกว่างานที่มีค่ายดูแล เพราะอย่างน้อยชื่อเสียงเราคนทั่วประเทศก็รู้จักอยู่ และที่สำคัญงานของเราทุกเพลงมีเด็กหยิบเพลงมาประกวดในรายการทีวีต่างๆ มันเหมือนกับว่าเราต้องรักษาจุดนี้ให้ดีที่สุด”

ตอนนี้ยังอยากมีค่าย? “ไม่เลยค่ะ ไม่เคยคิดเลย คิดอย่างเดียวว่าตอนนี้ถ้ามีโอกาสทำเพลงเองแล้งพอมีกระแส เราอยากเอาเพลงของเราไปมอบให้กับแกรมมี่ดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ค่ะ”

เสียใจที่สุดในชีวิต? “แอบเสียดายมาก และเสียใจมาตลอด ถ้าเลือกได้จะย้อนกลับไป คือชีวิตการเข้ามาในวงการ 20 ปี เคยเสียใจอะไรมากที่สุด เสียใจที่สุดเรื่องนี้เลยค่ะ เรื่องที่เราไม่ต่อสัญญาในขณะที่ผู้ใหญ่ยังให้โอกาสต่อ อาจจะด้วยช่วงจังหวะชีวิตเรา ช่วงนั้นอาจจะดวงตก คือที่อยู่แกรมมี่ดวงดีมาตลอดไง มีงาน มีเงิน คือเราได้ทุกอย่างที่แกรมมี่ค่ะ

เพลงดังมาทั้ง โทรเบอร์ไม่โชว์ใจ, แค่อยากให้รู้ว่ารัก, รองูเข้าฝัน ดังหมด เรามองว่าตอนนั้นงานเราสม่ำเสมอในระยะเวลา 5 ปี ที่ค่ายดูแล แล้วพอวันหนึ่งหลังจากที่เราไม่ต่อสัญญา ทุกอย่างมันเฟดแล้วเราไม่สามารถขึ้นกลับมาได้ นอกจากว่าในเวลานี้อาศัยชื่อเก่าให้รักษาเครดิตตัวเองไว้ เพื่อต่อยอดงาน”

เห็นไปมูเตลู รำถวายของาน? “คนอื่นเขาก็ทำเยอะนะคะ ศิลปินส่วนใหญ่จะไปสายมูฯ เยอะ คือมีคนชวนไปค่ะ แต่ในความรู้สึกของเราไม่ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์นะคะ เราก็ชอบดูเวลาใครไปมูฯ แต่ด้วยตัวเราคิดมาตลอดว่าในความโชคดีที่เกิดขึ้นในชีวิต เราได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ แล้วช่วงที่จังหวะชีวิตดี ทุกอย่างที่เข้ามาชีวิตล้วนแต่เป็นเรื่องดีๆ

แต่ช่วงจังหวะชีวิตเราไม่ดีต่อให้เราพยายามแค่ไหน ทำเพลงดีแค่ไหน ตั้งใจมากแค่ไหน มันก็ประสบความสำเร็จไม่ได้ นี่คือดวงของเรานะ เป็นแบบนี้เลย ขาลงมันจะลงจนสุดแล้วมันขึ้นมา เป็นแบบนี้มาหลายรอบมาก จนสื่อมวลชนตั้งฉายาให้ว่าแมว 9 ชีวิต”

เชื่อเรื่องฮวงจุ้ย โหงวเฮ้ง? “ไม่ขนาดนั้นค่ะ แต่ว่าไม่ลบหลู่ แต่ถ้าหากใครทักว่าดวงจันทร์ สุวรรณีหายจากวงการไป 10 ปีแล้วนะ ลองเปลี่ยนชื่อมั้ย แล้วจะกลับมาดังเหมือนเดิม อันนี้เราไม่ทำแน่นอน เพราะคิดว่าคนรู้จักดวงจันทร์ สุวรรณี เราชื่อนี้ตั้งแต่เข้าวงการ คือใช้ชื่อนี้มา 26 ปีเต็มแล้ว ฉะนั้น 10 ปีที่หายไปจากวงการ วันหนึ่งมีคนมาบอกว่าลองไปมูฯ มั้ย คิดว่าไม่ทำ”

เห็นไปรำถวายมา? “ที่ไปรำเพราะขอแล้วได้ คือเราขอในใจ ขอว่าช่วงต้นปีถ้าเกิดได้กลับบ้าน คิดดูระยะเวลา 20 ปีที่เข้าวงการ 10 ปีหลังไม่เคยไปร้องเพลงที่ใต้ช่วงสิ้นปีเลย แล้วถ้าเกิดปีนี้จะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นในชีวิต ขอให้ได้ไปที่ใต้ แล้วจะกลับไปรำให้ตายายโนราดู เขาก็ติดต่องานมาวันเดียวแล้วคอนเฟิร์มเลย มีผลค่ะ ตอนนี้ทุกอย่างราบรื่น โอเคค่ะ”