จากกรณีที่กระทรวงวัฒนธรรมกัมพูชาประสานสถานทูตให้ตรวจสอบ การก่อสร้าง”วัดภูม่านฟ้า” อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ว่าเป็นการสร้างเลียนแบบ นครวัด ของกัมพูชา
พร้อมกับยกตัวอย่างประเทศอินเดีย ที่พยายามสร้างปราสาท เลียนแบบนครวัด ส่งผลให้ประเทศอินเดียมีอันเป็นไป คือเมื่อปี 2015 ในอินเดียแล้งและร้อนสุด รวมถึงการโยงถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นโรงงานสารเคมีระเบิดในปัจจุบันว่าจะเกี่ยวกับโรงแรมที่สร้างในประเทศไทยคล้ายปราสาทในกัมพูชา หรือไม่จนมีการเปรียบเทียบ “วัดภูม่านฟ้า” เป็น จัสตินบุรีรัมย์
นายสมพงษ์ หมวดไธสง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุว่า วัดภูม่านฟ้า ตั้งอยู่บ้านสิงห์ ต.บ้านสิงห์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หลังจากมีการเผยแพร่ในโลกโซเชียลว่า มีการก่อสร้างปราสาทที่มีลักษณะคล้ายกับ ปราสาทนครวัดของประเทศกัมพูชา ที่กำลังมีการก่อสร้างขึ้น ที่วัดแห่งนี้
จากการตรวจสอบข้อมูลวัดภูม่านฟ้า ได้รับการอนุญาตให้สร้างวัดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2562 และวัดได้รับอนุญาตตั้งวัดในพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา โดยมีพระสมศักดิ์ สังวรจิตโต เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาส เจตนาของวัดสร้างเป็น วัดพุทธศาสนพุทธสถาน สร้างแบบในเชิงท่องเที่ยว ซึ่งรักษาการ ได้ยืนยันว่าไม่ได้สร้างเลียนแบบ หรือใช้ศิลปะของนครวัดมาก่อสร้าง แต่อย่างใด มีเพียงเจดีย์ 3 องค์ที่มีลักษณะคล้ายกันเท่านั้น
พื้นที่ที่จะสร้างอานาบริเวณที่จะสร้าง เจดีย์ 3 องค์ ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มีข้อที่คล้ายคลึงกันทึ่ เจดีย์ 3 องค์เท่านั้น ส่วนลายศิลปะ มีทั้งของไทยและของขอมปะปนด้วย ซึ่งพระเองเป็นคนออกแบบเอง แต่หากหน่วยงานไหนจะเข้าไปตรวจสอบ ตนก็พร้อมจะอำนวยความสะดวก