ณัฐวุฒิ ไม่รู้ ภูมิธรรม แซะก้าวไกล ยันนโยบาย เกณฑ์ทหาร-สุราเสรี เพื่อไทยเคยทำแล้ว ชี้แต่ละพรรคมีสิทธิเสนอยุทธศาสตร์ตัวเองได้ไม่ผิด
24 เม.ย. 2566 – นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี นายเศรษฐา ทวีสิน ประกาศไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นความคิดเห็นในนามส่วนตัว หรือในนามพรรค
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นายเศรษฐา พูดในนามแคนดิเดตนายกฯคนหนึ่ง คิดว่าเป็นท่าทีของพรรคที่ประกาศต่อประชาชน ยิ่งเมื่อวานนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ ก็ให้สัมภาษณ์พร้อมกับ นายเศรษฐา ก็ไม่ได้มีคำตอบที่แตกต่างหรือขัดแย้งแต่อย่างใด
พรรคการเมืองใดก็ตามที่ประกาศจะจับกับพรรคนี้ ไม่จับกับพรรคนี้ ก็เป็นสิทธิ แต่ที่ยังไม่ทราบคือประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร จะตัดสินใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้แค่ไหน นอกจากจะดูคะแนนของตัวเองแล้ว จะต้องดูคะแนนของพรรคการเมืองอื่นด้วย ในฐานะที่จะเป็นพรรคการเมืองเดียวที่จะเป็นผู้เริ่มต้นในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง เรายืนยันว่าเราจะขอฟังเสียงประชาชนก่อน ส่วนเสียงของแต่ละพรรคการเมืองที่แสดงออกมา เชื่อว่าผู้บริหารจะพูดคุยกันหลังเลือกตั้ง
หลัก ๆ ที่ถูกประกาศมาตลอดคือ พรรคการเมืองที่เป็นซีกเผด็จการ เกี่ยวข้องกับการัฐประหาร ไม่ได้อยู่ในความคิดของพรรคเพื่อไทย ที่จะจัดตั้งรัฐบาลด้วยอยู่แล้ว
เมื่อถามกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวในลักษณะแซะพรรคก้าวไกล เรื่องนโยบายหลายอย่างที่พูดไป พรรคเพื่อไทยเคยทำมาแล้ว รวมถึงการทวีตข้อความในลักษณะที่บอกว่าเก่งแต่ในโซเชียล
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นข้อเท็จจริงในเรื่องนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นการเกณฑ์ทหารโดยความสมัครใจ หรือสุราเสรี ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับพรรคเพื่อไทย ส่วนความหมายของ นายภูมิธรรม จะเป็นการแซะหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่ดูการทำงานร่วมกันที่ผ่านมา นายภูมิธรรม ก็ยังได้รับการพูดถึงในเชิงบวก และการยอมรับจาก นายปิยบุตร (แสงกนกกุล) ว่าเขาทำงานด้วยกันได้ดีในหลาย ๆ เรื่อง
ซึ่งตนมองว่าในสนามการเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกพรรคแข่งกันเต็มที่เต็มกำลังแบบนี้ถูกต้องแล้ว และแต่ละพรรคมีสิทธิที่จะเสนอแนวทางและยุทธศาสตร์ของตนเอง ถือว่าไม่ผิด